นายกฯ ยืนยันทำงานรับฟังความเห็น ไม่หนีความรับผิดชอบ ย้ำให้ความสำคัญเรื่องการศึกษา รับรู้ตัวค่อนข้างมีอารมณ์แรงเพราะเป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกัน
วันที่ 1 มิ.ย. 2565 ในการประชุม สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท วันที่สองพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงอีกครั้งถึงการกล่าวหาที่ไม่รับผิดชอบ โยนความผิดให้ผู้อื่น ว่า การทำงานของตนเองจะต้องฟังความคิดเห็นจากคณะทำงานทุกคณะ โดยนายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ ไม่หนีไปไหนอย่างแน่นอน ความรับผิดชอบทุกอย่าง อย่างไรก็ต้องรับผิดชอบ ขออย่าพูดอะไรที่เกินเลยไป ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งอยู่ในหัวข้อหลักของยุทธศาสตร์ชาติ แต่สิ่งสำคัญที่จะทำอย่างไรให้มีคุณภาพดีมากขึ้น ที่จะต้องมีการพัฒนาทั้งครู โรงเรียน งบประมาณ ที่จะดูแลเด็ก
ส่วนที่มีการอภิปรายว่าทำลายระบบการศึกษา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้ความสำคัญกับการพัฒนา ศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะเด็ก อย่างที่นายกรัฐมนตรีเคยบอกว่าคุณแม่เป็นครู และตนเองก็เคยเป็นครูทหาร แต่วันนี้เราต้องปรับวิธีการสอน การเรียนรู้ใหม่ ให้ทันต่อเทคโนโลยี เรียนให้ตรงกับความต้องการของประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลนั้นมุ่งหวัง
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า การที่จะนั่งอยู่ในห้องประชุมหรือไม่ เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมีความรับผิดชอบมีการบันทึก สรุปว่าใครอภิปรายว่าอย่างไร และจะชี้แจงในส่วนไหน โดยทุกอย่างถูกบันทึกหมด และอ่านอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะทำงานอื่นด้วยก็ตาม เช่นเดียวกับวันนี้ที่มีภารกิจสำคัญ ในการต้อนรับการเยือนของนายกรัฐมนตรีจาก สปป.ลาว อย่างเป็นทางการ งานของตนเองนั้นไม่ได้หยุดนิ่ง และให้ความสำคัญ โดยมีคณะทำงานอยู่ที่สภา พร้อมที่จะชี้แจงเอง และให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องช่วยชี้แจงหลักการและเหตุผลในการจัดสรรงบประมาณในปีนี้ส่วนที่มีการกล่าวว่ามีการทุจริตเพิ่มขึ้น เพราะแก้ไขไม่ได้ ก็อยากให้มองกลับไปอีกมุม ว่าแต่ก่อนคดีน้อย น้อยเพราะอะไร ทั้งที่คดีการทุจริตมีมาก มีใครไปเข้าร่วมกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ มีการร้องทุกข์กล่าวโทษมากน้อยเพียงใดและนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเท่าใด ไม่อยากเข้าไปยุ่ง ไม่เคยเข้าไปก้าวก่าย ฟ้องอะไรมาก็ฟ้องไป ไม่ใช่หมายความว่า มีคดีเยอะ เพราะนายกรัฐมนตรีปล่อยปละละเลย ขอฝากให้ไปคิด หากคิดไม่ตรงกันก็ไม่เป็นไร ยืนยันว่า จะไม่ปกป้องใครทั้งสิ้น รับผิดชอบทุกเรื่อง และขอให้ช่วยมองต่างมุมบ้าง
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลพยายามแก้ไขในสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้ถูกต้อง รับผิดชอบทุกอย่างยืนยันว่าไม่เคยท้อ ทำงานทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นที่ทำเนียบหรือที่อื่น เพราะวันนี้ทำงาน โดยการใช้เทคโนโลยี สามารถสั่งการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นในและต่างประเทศ มีความรับผิดชอบและจะไม่ก้าวก่าย ไม่สั่งการอะไร ที่เกิดประโยชน์กับตัวเอง หรือกับใคร ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ยอมรับว่าเป็นห่วงข้าราชการ หลายคน ที่ต้องถูกดำเนินคดี เหมือนเช่นในอดีตที่ผ่านมา และหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีเมื่อมีปัญหา ก็ให้ตรวจสอบเพราะบางอย่างเป็นอำนาจคนละระดับ แต่ตนก็รับผิดชอบในภาพใหญ่ จะดีจะชั่ว ก็ต้องรับอยู่แล้ว ไม่หนีท่านหรอก ขอยืนยัน และอยากให้ทุกคนเข้าใจ และรู้ตัวเองดีว่า ค่อนข้างที่จะมีอารมณ์แรงนิดนึง ก็เพราะว่าตนนั้นเป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกัน แต่ก็จะระวังอย่างที่สุดในการพูดจาตรงนี้ และขอขอบคุณทุกคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ จะนำไปแก้ไขปรับปรุงในขั้นตอนหลังจาก การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ผ่านไปแล้ว
ขณะที่นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายต่อว่า ในวันนี้ส.ส.ตั้งรับไม่ทัน ไม่รู้ว่าช่วงเช้า นายกรัฐมนตรี อารมณ์เสียมาจากไหนแต่ก็มาใส่ในสภา ส.ส.ไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของนายกรัฐมนตรีต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน และนายกชอบบ่นว่าขอความร่วมมือจากใครไม่ได้ ทั้งที่ความจริงทำงานได้ทั้งนั้น ไปอยู่ที่ว่ารู้จักให้เกียรติกันหรือไม่
