นายกฯ งดให้สัมภาษณ์สื่อหลังประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ

นายกฯ งดให้สัมภาษณ์สื่อหลังประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ

การเมือง

นายกรัฐมนตรี งดคุยสื่อมวลชน หลังประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ขณะที่ ‘พล.อ.ประวิตร’ บ่นไม่ได้ปาดหน้านายกฯ แค่ไปไหว้พระที่เยาวราช

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ครั้งที่ 1/ 2566  โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง และเมื่อเสร็จสิ้นการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถือเอกสารผลการประชุมเดินลงมายังโพเดียมแถลงข่าว พร้อมวางเอกสารบนโพเดียม และกล่าวกับสื่อมวลชน ว่า การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทุกอย่างเป็นไปตามเอกสารแถลงข่าว พร้อมเคาะลงบนโพเดียม ก่อนจะเดินออกไปขึ้นรถ และสั่งให้เจ้าหน้าที่ปิดรถ ไม่ลดกระจกลงมาเหมือนทุกครั้ง และเดินทางกลับออกไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึงคนแรกตามมาด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาถึงคนที่สอง และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาถึงคนสุดท้าย 

โดยทั้งสามคนได้เข้าห้องรับรองที่อยู่ด้วยกันเพียงสามคน และใช้เวลา 5 นาที ซึ่งทันทีที่ พล.อ.ประวิตร เดินทางมาถึง ได้บ่นกับคณะที่มารอรับว่า “ไปหาว่าเราปาดหน้านายกฯ ไม่ใช่ เราไปไหว้พระอยู่แล้วที่มูลนิธิเทียนฟ้า ไปไหว้ประจำ ทำบุญมาตลอดอยู่แล้ว” 

ภายหลังการประชุม พล.อ.ประวิตร ได้เดินออกจากห้องประชุมเป็นคนแรก และเดินทางกลับออกไปทันที ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.อนุพงษ์ ออกจากห้องประชุมในเวลาไล่เลี่ยกัน

สำหรับผลการประชุม สมช. ได้รับทราบการดำเนินงานด้านความมั่นคง 3 เรื่อง คือ 1.ผลการดำเนินงานในการรักษาความมั่นคงประจำปี 2565 รวมทั้งแผนบูรณาการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง พ.ศ. 2566-2570 

2.ผลการฝึกการบริหารวิกฤติระดับชาติ ประจำปี 2565 และ 3.ความคืบหน้าการเปิดจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี่ยน – สตึงบท อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว 

นอกจากนี้ที่ประชุม ยังเห็นชอบร่างแผนรองรับนโยบาย และแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่งคงแห่งชาติ ประกอบด้วย ร่างแผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการชายแดนด้านความมั่นคง พ.ศ. 2566-2570 , ร่างแผนปฏิบัติการด้านการต่อต้านการก่อการร้าย พ.ศ. 2566 -2570 และร่างแผนเตรียมพร้อมแห่งชาติ และแผนบริการวิกฤติ 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ และกระทรวงมหาดไทยบูรณาการและทำงานร่วมกัน พร้อมกันนี้ ยังกำชับให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และยุติธรรม เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงที่จะเกิดกับประชาชนและการพัฒนาพื้นที่

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง