‘แพทองธาร’ ลงพื้นที่ จ.เลย ประกาศชัด หาก ‘เพื่อไทย’ เป็นรัฐบาล ประชาชนต้องมีกิน มีใช้ มีรายได้ใกล้บ้าน อาจจะได้เห็น ‘ลิซ่า แบล็กพิงค์’ คนต่อไปมาจากจังหวัดเลย ย้ำถ้าได้เป็นรัฐบาลในปี 2570 ค่าแรงขั้นต่ำจะต้องขึ้นเป็นวันละ 600 บาทแน่นอน จะเดินหน้าอุ้มท้องหาเสียงเพื่อเป้าหมายไปสู่แลนด์สไลด์ต่อไป
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย สมาชิกพรรคเพื่อไทย เดินทางมาถึง จ.เลย เพื่อร่วมกิจกรรมปราศรัยใหญ่ ในงานแลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น
น.ส.แพทองธาร กล่าวบนเวทีปราศรัยที่สนามกีฬากลางจังหวัดเลย ว่า ตั้งใจอยากจะพัฒนานโยบายที่พรรคไทยรักไทยเคยได้เริ่มไว้ในจังหวัดเลย อย่างโครงการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง ที่จะช่วยสร้างเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของเลยให้กลับมาเติบโต พี่น้องชาวเลยจะได้ไม่ต้องย้ายถิ่นฐานไปขายลอตเตอรี่ไกลบ้านอีก มีรายได้และอาชีพที่มั่นคง
ในด้านภาคการเกษตร เพื่อไทยจะทำให้สินค้าเกษตรราคาขึ้นยกแพง และขอเป็นตัวแทนนำสินค้าของพี่น้องชาวเกษตรกรไปขายให้กับต่างชาติ เพิ่มกำไร เพิ่มรายได้ รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการเกษตรเพื่อให้เกษตรกรมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ขายได้ง่ายขึ้น และปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งที่เป็นอุปสรรคในการเกษตรจะต้องถูกแก้ไขอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ยังชี้ถึงปัญหายาเสพติดที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ ทำให้ลูกหลานมองไม่เห็นอนาคต สถาบันครอบครัวแตกแยก พรรคเพื่อไทยจึงให้ความสำคัญนโยบายแก้ไขยาเสพติด ไม่ใช้แค่ปราบปราม แต่ยังต้องบำบัดผู้ที่ได้รับผลกระทบจากยาเสพติดอีกด้วย เพราะพื้นฐานอนาคตของลูกหลานเป็นสิ่งสำคัญ
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า มุมมองในฐานะคนเป็นแม่อยากเห็นลูกหลานเติบโตบนอนาคตที่สดใส หนึ่งในนโยบายของพรรคเพื่อไทยจึงมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพของประชาชน ‘1 ครอบครัว 1 Soft Power’ ที่ เพื่อให้ประชาชนได้มีรายได้หาเลี้ยงครอบครัวและตัวเอง โดยมีรายได้เริ่มต้น 2 แสนบาทต่อปี และตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องสร้างงาน สร้างอาชีพให้ได้มากถึง 20 ล้านตำแหน่ง เราอาจจะได้เห็น‘ลิซ่า แบล็กพิงค์’ ศิลปินชื่อดังระดับโลก คนต่อไปมาจากจังหวัดเลย ที่สำคัญถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลในปี 2570 ค่าแรงขั้นต่ำจะต้องขึ้นเป็นวันละ 600 บาทแน่นอน
“เราเลือกตั้งเพื่ออนาคตของลูกหลาน มีทางออกเห็นแสงสว่าง ไม่ต้องมีหนี้มีสินอีก เพราะเพื่อไทยพร้อมที่จะ คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อจังหวัดเลย ชาวอีสาน เพื่อคนไทยทุกคน ขอให้พี่น้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนสไลด์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า” น.ส.แพทองธาร กล่าว
ยุบสภาพร้อมประกาศชื่อ ‘แคนดิเดตนายกฯ’ มีมากกว่า 3 ราย

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมความพร้อมตลอดเวลา กรณียุบสภาเมื่อไหร่ เราพร้อมประกาศ ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทันที ซึ่งตอนนี้มีมากกว่า 3 รายชื่อ และจะประกาศตามกฎหมายกำหนดที่ 3 รายชื่อแน่นอน
ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า การลงพื้นที่ จ.เลย ครั้งนี้ ถือเป็นการเดินสายหาเสียงอย่างเป็นทางการ ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะมีการปราศรัยทั่วประเทศ โดยในขณะนี้ยังสามารถเดินทางทางเครื่องบินได้ จึงอยากจะลงพื้นที่ให้มากที่สุด และหลังจากนี้เมื่อเข้าสู่ช่วงใกล้คลอดบุตรชายจะสามารถโดยสารโดยรถยนต์ในระยะเวลา 2-3 ชั่วโมงได้
ส่วนการที่หลายฝ่ายตั้งคำถามว่าพรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น น.ส.แพทองธาร ยืนยันว่า เรื่องนี้ยังไม่เคยคุยกัน ไม่มีดีล ไม่ได้คุยกันเลย ยืนยันว่าจะเดินหน้าอุ้มท้องหาเสียงเพื่อเป้าหมายไปสู่แลนด์สไลด์ต่อไป
เมื่อถามว่ากรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยประกาศว่าหากจะกลับประเทศไทยน.ส.แพทองธาร กล่าวว่า นายทักษิณ อยู่ต่างประเทศกว่า 17 ปี น่าจะมีวิธีและกระบวนการที่คิดไว้ อย่างไรก็ตามเคารพในการตัดสินใจ จะไม่เอาพรรคการเมืองมาเกี่ยวข้อง ตนและพรรคเพื่อไทย ขอมุ่งหน้าหาเสียงแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน ไม่ใช่การนำ นายทักษิณ กลับประเทศไทย
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงนายทักษิณ ว่าไม่ชอบคนๆ นี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เข้าใจว่า อาจจะเครียดหลายอย่าง คงหงุดหงิดง่าย











