‘พล.อ.ประวิตร’ กำชับ ส.ส.พปชร.เคร่งครัดกฏเหล็ก กกต.คุมเลือกตั้ง 180 วัน นัดประชุมพรรคติวเข้ม ส.ส. 28 ก.ย.นี้ ขณะที่ ปชป.ขอ กกต. ตั้งคอลเซ็นเตอร์ตอบข้อสงสัยระเบียบเลือกตั้ง ส.ส.
นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ออกประกาศหลักเกณฑ์เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้สมัคร ส.ส.และพรรคการเมือง ปฏิบัติตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ภายในกรอบเวลา 180 วัน ซึ่งจะเริ่มนับในวันที่ 24 ก.ย.ว่า พรรคพลังประชารัฐไม่ได้กังวลอะไร แต่ก็ไม่ประมาท โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้กำชับให้สมาชิกพรรค โดยเฉพาะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคระมัดระวังเรื่องกฏ 180 วัน ของ กกต.อย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ช่วยหลือประชาชนนั้นรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐได้ทำมานานแล้ว จากนี้จึงอาจจะต้องระมัดระวังหรือเข้มงวดในสิ่งที่ทำไม่ได้ เช่น การแจกของเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนก็เท่านั้นเอง ทั้งนี้ ฝ่ายกฎหมายพรรคจะชี้แจงประกาศ กกต. ให้กับ ส.ส.ทุกคนทราบในการประชุมพรรคพลังประชารัฐในวันที่ 28 ก.ย.นี้ เวลา 15.00 น.ด้วย
“พรรคไม่รู้สึกกังวลอะไร แต่อาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นเท่านั้นเอง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลลงพื้นที่ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ได้พึ่งจะมานึกได้ว่าห่างหายจากการช่วยประชาชนไปนานเพราะมัวแต่เล่นเกมการเมืองในสภาฯ แล้วก็มาเร่งรีบลงพื้นที่ช่วยประชาชนเอาตอนนี้ ซึ่งถ้าใครมองเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องได้เปรียบหรือเสียเปรียบกันนั้น ก็เท่ากับการยอมรับว่า ที่ผ่านมาตัวเองทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ น้อยกว่าคนอื่นใช่หรือไม่ แต่ถ้าได้ทำมาตลอด ก็เพียงแค่ศึกษาข้อกำหนดที่วันนี้ กกต.กำหนดออกมาอย่างชัดเจนแล้วให้เข้าใจ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แล้วผลงานที่ทำมานั้นจะทำให้ชนะใจประชาชนเอง”นายธนกร กล่าว
‘องอาจ’ ชง กกต. ตั้ง Call Center ตอบข้อสงสัยระเบียบเลือกตั้ง ส.ส.
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงระเบียบของ กกต. ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. ว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งและระเบียบของ กกต. และเชื่อว่าทุกพรรคการเมืองก็พร้อมจะปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่ออกมา
แต่ที่หลายพรรคการเมืองออกมาตั้งคำถามถึงแนวทางปฏิบัติต่างๆ ตามระเบียบนั้น เพราะยังมีความไม่แน่ใจถึงการทำตามระเบียบว่าเรื่องไหนทำได้ ทำไม่ได้ แค่ไหน อย่างไร จึงขอเสนอให้ กกต. ปรับปรุงการทำงานเพื่อให้พรรคการเมืองและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน 3 ประการ ดังนี้
1. ขณะนี้พบว่า คำชี้แจงของ กกต. ในพื้นที่แต่ละจังหวัดมีหลายเรื่องที่ไม่ตรงกัน และคำชี้แจงบางเรื่อง กกต. ในบางจังหวัดชี้แจงคลาดเคลื่อนไปจาก กกต.กลาง ขอให้ กกต. ทำข้อสรุปแนวทางปฏิบัติให้ กกต. ทุกระดับชี้แจงให้ตรงกันทั่วประเทศ
2. เนื่องจากการปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายเลือกตั้ง ไม่ได้เกี่ยวข้องเฉพาะฝ่ายการเมืองเท่านั้น ยังมีหน่วยงานราชการ องค์กร บุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มีความไม่แน่ใจในการปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย กกต. จึงควรตั้งศูนย์ประสานงาน หรือ Call Center พร้อมให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อทุกฝ่ายจะได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย
3. กกต. ต้องติดตามตรวจสอบการปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายของฝ่ายการเมือง ฝ่ายข้าราชการประจำ กระทรวง องค์กร บุคคล ทั้งในระดับท้องถิ่น ท้องที่ ภูมิภาค และประชาชนอย่างตรงไปตรงมา เท่าเทียมกัน ไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่อย่างใด
นายองอาจ กล่าวว่า การมีระเบียบและกฎหมายเลือกตั้งออกมาบังคับใช้ ก็เพื่อให้การเลือกตั้ง ส.ส. เป็นไปอย่างสุจริต เที่ยงธรรม องค์กรที่บังคับใช้กฎหมาย คือ กกต. ถือเป็นหัวใจสำคัญส่วนหนึ่งของการทำให้การเลือกตั้งสุจริต เที่ยงธรรม จึงขอให้ กกต. ทำตามอำนาจหน้าที่อย่างจริงจัง เท่าเทียมกัน ซึ่งจะช่วยทำให้การเลือกตั้ง ส.ส. เป็นไปตามความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริงต่อไป










