นายกฯ เผยเหตุผล ศบค.เคาะยกเลิก Test and Go เหลือเช็ก ATK เริ่ม 1 พ.ค. รับเปิดการท่องเที่ยว

นายกฯ เผยเหตุผล ศบค.เคาะยกเลิก Test and Go เหลือเช็ก ATK เริ่ม 1 พ.ค. รับเปิดการท่องเที่ยว

การเมือง

นายกฯ เผย ศบค. ยกเลิก Test and Go เหลือเช็ก ATK  มีผลตั้งแต่ 1 พ.ค.นี้ รับเปิดการท่องเที่ยวให้สะดวกรวดเร็วขึ้น เล็งเพิ่มการท่องเที่ยวแบบ “Two Countries, One Destination” ประเมินหลังสงกรานต์ยังต้องติดตามอีก 1-2 สัปดาห์ ย้ำเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนใหม่ 17 พ.ค.นี้ เน้นฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม และวันนี้ยังไม่มีการหารือเรื่องโควิดเป็น “โรคประจำถิ่น”

วันที่ 22 เม.ย. 2565 เวลา 11.36 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า  วันนี้เป็นการประชุมศบค. ครั้งสำคัญเหมือนกัน เราได้มีการติดตามประเมินผล ทั้งช่วงที่ผ่านมา และประเมินผลในช่วงสงกรานต์ ซึ่งต้องมีการติดตามอีก 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทุกคนคาดหวังไว้ คือเราได้มีการผ่อนคลายมาตรการในการเข้าประเทศในเรื่อง Test and Go เราปรับแล้ว รายละเอียด โฆษกศบค. จะชี้แจงเพื่อปฏิบัติให้ถูกต้อง

เรายกเลิกการตรวจ Test and Go เปลี่ยนเป็นการใช้ตรวจ ATK เริ่มวันที่ 1 พ.ค. นี้ อาจจะสะดวกรวดเร็วขึ้นในการที่จะเปิดการท่องเที่ยวของเรา ในช่วงที่ผ่านมาก็เริ่มจะดีขึ้นแล้ว หลายประเทศก็ได้มีการปรับมาตรการค่อนข้างผ่อนคลายมากพอสมควร วันนี้ในฐานะที่เราเป็นประเทศที่จะต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวมากพอสมควรในช่วงเวลานี้ ทั้งนี้เพื่อให้เศรษฐกิจเราเดินหน้าไปได้ แต่อย่างไรก็ตามมาตรการที่เราปลดล็อกไปในวันนี้ เราพูดในหลายประเด็นด้วยกัน ทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ มาตรการในการตรวจ มาตรการในการดูแล มาตรการในการรองรับผู้โดยสารต่างๆ มีพูดอยู่หลายประเด็นด้วยกัน

อีกประเด็นที่สำคัญ คือเรื่องของการเปิดโรงเรียน ใกล้จะมาถึง 17 พ.ค. ต้องเตรียมมาตการในการเปิดโรงเรียน On-site ทั้งนี้ทั้งนั้นมีข้อกำหนดทั้งสิ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือขอความร่วมมือ ความเข้าใจ อีกประเด็นที่เน้นย้ำคือเรื่องการฉีดวัคซีน สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือยังฉีดไม่ครบโดส และวัคซีนเกี่ยวกับเด็ก ได้มีการเร่งรัดจัดหาวัคซีน และเร่งดำเนินการฉีด ข้อสำคัญเด็กที่ฉีดวัคซีนได้คืออายุเกิน 5 ปีขึ้นไป ยังไม่มีการใช้ต่ำกว่า 5 ปี เป็นเรื่องที่ผู้ปกครองต้องระวัดระวัง ส่วนใหญ่ก็ติดจากผู้ปกครองทั้งสิ้น ที่สำคัญที่สุดคือการระมัดระวังตัวเอง และครอบครัวให้มากที่สุด จำเป็นต้องขอความร่วมมือ เพราะเป็นเรื่องของคนส่วนใหญ่รัฐบาลก็พยายามทำอย่างเต็มที่

“เท่าที่ผมฟังมาจากต่างประเทศ เขาก็ชื่นชมในการมาตรการของเรามาโดยตลอด ถึงแม้เราจะมีการติดเชื้อแต่เขาดูในมาตรการรองรับของเรา การรักษาหาย ซึ่งมีผู้มีอาการรุนแรงก็ลดลงเรื่อยๆ ตามลำดับ ความพร้อมของระบบรักษาพยาบาล อันนี้ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ทุกส่วนราชการ รวมทั้งประชาชน อสม. ต่างๆ ที่ช่วยกันทำให้ประเทศไทย ความปลอดภัยได้ถึงขณะนี้ ถือว่าดีกว่าหลายประเทศที่ดำเนินการอยู่ขณะนี้ ทุกประเทศก็ชื่นชม และอยากจะขอความร่วมมือ มีการแลกประสบการณ์ทางด้านสาธารณสุขกับเรา อันนี้คือโอกาสของเราแล้วล่ะ” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงในเรื่องการท่องเที่ยวเพิ่มเติมว่า จะมีการพัฒนาว่าจะทำอย่างไรที่จะเพิ่มการท่องเที่ยวในลักษณะ “Two Countries, One Destination” ได้หรือเปล่า ประเทศเขามีตรงไหน เรามีตรงไหน จะบินตรงกันมาถ่ายเครื่องบินกันได้ตรงไหน อะไรอย่างไร มันก็ต้องไปในพื้นที่ที่ปลอดภัย

“พื้นวันนี้เราก็กำหนดเหลือพื้นที่สีส้ม เขียว เหลือง ฟ้า สีแดงก็ปลดหมดแล้ว รายละเอียดให้ทางโฆษกศบค. แล้วกัน เรื่องมันเยอะ เดี๋ยวนายกฯ จะพูดผิด ประชุมทีเอกสารเป็นปึก ก็ต้องขอบคุณฝ่ายสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหลายหน่วยงานด้วยกันที่มาหารือร่วมกัน และได้ยกปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ที่ประชุมได้ตัดสินใจร่วมกันด้วยความเห็นชอบของฝ่ายสาธารณสุข คุณหมอต่างๆ ก็ยอมรับกัน เดี๋ยวมีหลายอย่างที่จะชี้แจงนะจ๊ะ” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการพิจารณาประกาศให้โควิด-19 เป็นเรื่องโรคประจำถิ่น พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า ยังไม่ได้พูดถึงตรงนี้ วันนี้พูดถึงจะมีการปลดล็อกในการเข้าประเทศอย่างไร ซึ่งมีทั้งมาอยู่เวลานานจะทำอย่างไร ถ้ามาอยู่ 1-2 วันจะทำอย่างไร เราก็ไปในทิศทางนั้นอยู่ ดังนั้นการจะไปเป็นโรคประจำถิ่นจะมีการพิจารณากันอีกที ซึ่งก็ต้องฟังความคิดเห็นจากต่างประเทศมาด้วย

ส่วนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้ นายกฯ บอกว่า ต้องไปหาสาเหตุว่าเพิ่มขึ้นจากอะไร วันนี้ก็มีสาเหตุที่มีการสรุปมาแล้วแยกประเภทมาแล้ว ผู้สูงอายุ 608 ฉีดวัคซีนครบโดสหรือไม่ ตายจากโควิด หรือตายจากโรคอื่นมีสถิติทั้งหมด คิดว่าละเอียด เราทำละเอียดมากกว่าหลายๆ ประเทศด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นขอให้เข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เรื่องอะไรไม่เป็นเรื่องก็เบาๆ ลงบ้าง

ภาพจาก : ทำเนียบรัฐบาล

 

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง