‘พีระพันธุ์’ ยันนักเล่นเกมไม่ได้เจาะจงถึง ‘พล.อ.ประวิตร’ แต่เชื่อว่าต้องมีคนสั่งการ ด้าน‘ภูมิธรรม’ ลั่น ‘พท.’ จำเป็นไม่ร่วมโหวต ย้ำสูตรหาร 500 ขัด รธน.ไม่เป็นประชาธิปไตย
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐโยนให้มาถามตนเองที่โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่ามีนักเล่นเกมที่หัวหน้าทีมให้ลูกทีมไปลงชื่อ แล้วไม่ต้องลงสนาม ว่า ไม่ได้หมายถึงใครเฉพาะเจาะจง แต่จากประสบการณ์ทางการเมืองการที่ ส.ส.จำนวนมาก มีพฤติกรรมไปในแนวทางเดียวกัน จะต้องมีการสั่งการแน่นอน ส่วนใครจะเป็นคนสั่งนั้นไม่ทราบ หมายถึงคนที่สั่งการ คนที่ดำเนินการ
“บอกเลยว่าไม่ใช่ พล.อ.ประวิตร เพราะท่านให้สัมภาษณ์ว่าไม่รู้เรื่อง ไม่เกี่ยวข้อง ไม่เคยไปสั่งการใดๆ เพราะฉะนั้นไม่ได้หมายถึงท่าน แต่หมายถึงใครก็ได้ที่มีลักษณะเช่นนี้ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ที่โพสต์ไปนั้นก็มาจากประสบการณ์การทำงานในสภาที่เห็น ส.ส.จำนวนมากที่มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันมันจะต้องมีวิป มีสั่งการอยู่แล้วแต่จะสั่งการโดยใครตนไม่ทราบ ต้องไปสืบ ไปเช็คกันเองว่าเป็นใคร” นายพีระพันธุ์ กล่าว
ส่วนคนที่สั่งน่าจะต้องเป็นคนระดับบิ๊กพอสมควรใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ ระบุว่า ไม่จำเป็น วิปอาจจะเป็นคนสั่งก็ได้ ใครคนใดคนหนึ่งในวิปก็ได้แต่การไปทำให้สังคมวุ่นวาย ทำให้สภาวุ่นวายแบบนี้มันไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เหตุการณ์สภาล่มซ้ำซากดังกล่าว แน่นอนว่ากระทบต่อภาพพจน์ของรัฐสภา ซึ่งสมาชิกทั้งหมด รู้อยู่แล้วว่าจะเป็นประวัติการทำงานของสมาชิกรัฐสภา และสุดท้ายประชาชนก็จะจำประวัติการทำงานของ ส.ส.ไว้และอาจจะมีผลในการเลือกตั้ง วันนี้ไม่มีกฎหมายกำหนดเอาผิด เอาโทษเพราะฉะนั้นคงไม่มีความผิด ไม่มีโทษอะไร แต่เรื่องความรับผิดชอบเป็นเรื่องวุฒิภาวะซึ่งประชาชนมองดูอยู่เพราะทำให้ภาพพจน์สภาเสียหาย และการที่จะฟื้นศรัทธาขึ้นมาก็อยู่ที่สมาชิกรัฐสภาเอง
‘ภูมิธรรม’ ลั่น ‘พท.’ จำเป็นไม่ร่วมโหวต ย้ำสูตรหาร 500 ขัด รธน.ไม่เป็นประชาธิปไตย
นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า พรรคฝ่ายค้านไม่โหวตกฎหมายเผด็จการที่ไม่เป็นประชาธิปไตยขัดรัฐธรรมนูญขัดหลักการตามกติกา ในเมื่อกฎหมายเลือกตั้งบัตร 2 ใบหาร 500
ผิดรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืนเจตนารมณ์ของประชาชนการที่ร่างกฎหมายฉบับนี้ตราขึ้นไม่ทันระยะเวลา 180 วันในครั้งนี้ เพราะรัฐสภาไม่จัดการให้เสร็จ ใน 180 วัน สะท้อนและบอกอะไรกับสังคมไทย และที่พรรคพท.ไม่เข้าร่วมประชุมทำให้มีความเห็นจำนวนหนึ่งที่ตั้งคำถามต่อท่าทีของพรรคพท.
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ฝ่ายค้านยุคนี้ปรับตัวตามสถานการณ์ได้ดี ไม่ยอมเล่นตามเกมการขับเคลื่อนของกลุ่มผู้มีอำนาจ การไม่โหวตกฎหมายที่เห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญ ถูกสั่งมาอย่างมีเบื้องหลังเพื่อรักษาอำนาจตนเอง เป็นอีกท่าทีหนึ่งที่ยังดำเนินการตามกติกา การแหวกวงล้อมครั้งนี้ถือว่าเราตั้งใจทำสิ่งที่ดี เราชั่งน้ำหนักการขยับตัวในทางออกนี้ ว่าได้ช่วยให้สังคมไทยสามารถขับเคลื่อนต่อไป เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และไม่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการที่แอบแฝงใช้ประชาธิปไตยเป็นข้ออ้าง
“ที่สำคัญการกระทำที่เกิดขึ้นของฝ่ายค้านในครั้งนี้ก็สามารถกระทำได้ตามรัฐธรรมนูญที่เปิดช่องให้แสดงออกได้ โดยกลับไปใช้ร่างหลักที่เสนอต่อสภาในวาระสอง ซึ่งถือเป็นร่างที่ดีกว่า ถูกต้องกว่าและมีความเป็นประชาธิปไตย ตรงตามรัฐธรรมนูญ มากขึ้นกว่าเดิมโดยมิได้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายมากขึ้นแต่อย่างใด” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ชัดเจนว่ากลุ่มผู้มีอำนาจและนายกรัฐมนตรีใช้เล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองเพื่อประโยชน์ต่อพรรคพวกตน หลอกกลุ่มพรรคเล็กในสภาฯให้ร่วมกันโหวตสนับสนุนผ่านมติไม่ไว้วางใจต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาล ด้วย “ต้นทุน” หรือ ”ค่ากล้วย” ราคาถูก ซึ่งการใช้เล่ห์เหลี่ยมของรัฐบาลยิ่งเปิดเผยถึงความเจ้าเล่ห์ กระทำการเพื่อประโยชน์ของพวกตนและกลุ่มชนชั้นนำโดยไม่สนใจหลักการและความถูกต้อง
“มองเห็นสภาฯ เป็นเครื่องมือสำหรับเกมการเมือง นึกอยากจะใช้วิธีหาร 500 ชนิดขัดหลักการทั้ง 4 ร่างเพื่อหลอกให้พรรคเล็กตายใจ แม้เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญก็ไม่สนใจ และยังผลักดัน ให้เกิดขึ้นโดยไม่คำนึงถึงผิดถูกและไม่รู้สึกละอายใจกับการพลิกลิ้นเพียงเพื่อประโยชน์ของตน ไม่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนแม้แต่น้อย” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ครั้นพอผลการโหวตลงมติไม่ไว้วางใจของพรรคเล็กผ่านความประสงค์เรียบร้อย เมื่อย้อนมาฟังคำตำหนิถึงการกระทำที่ฝ่ายตนจะถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดรัฐธรรมนูญ หากมีผู้ฟ้องร้องก็หันกลับมาปรับมติเสียใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการทางการเมืองของพวกตนบรรลุประโยชน์ของการประหยัด “ค่ากล้วย” ได้เรียบร้อยแล้ว
นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า กลุ่มส.ว.และส.ส. ฝ่ายรัฐบาลก็ทำตนเสมือน”หุ่นยนต์ตามสั่ง” ที่ถูกกดปุ่มให้เป็นไปตามความต้องการของกลุ่มผู้มีอำนาจในรัฐบาลอย่างชัดเจน
การเป็น “หุ่นยนต์” ที่ฝ่ายรัฐบาลคอยเติมน้ำมันหล่อลื่นให้ เท่ากับหมิ่นเกียรติและศักดิ์ศรีตนเอง ในเมื่อยอมรับการถูกชี้ตัวให้เข้ามาโดยไร้อุดมการณ์ มีแต่ผลประโยชน์จากการทำตามคำสั่ง ก็ยิ่งพากันลากดึงให้ตกต่ำ กลายเป็นกลุ่มที่ “ทำตามคำสั่ง อายไม่เป็น” ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดในสายตาของประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง
“การขับเคลื่อนของพรรคพท.และพรรคร่วมฝ่ายค้านครั้งนี้ ถือเป็นปรากฎการณ์ทางการเมืองสำคัญ ที่ยังคงอยู่บนฐานคิดของการก่อประโยชน์ต่อระบอบประชาธิปไตย เพราะทำให้ฝ่ายประชาธิปไตยโดยรวมได้รับโอกาสทำงานการเมืองที่สะท้อนความต้องการทางการเมืองของฝ่ายประชาชนได้มากขึ้น เราทำตามกติกาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ สภาล่ม ครั้งนี้เชื่อมั่นว่าจะก่อประโยชน์ยิ่งต่อการเมืองไทยในวันหน้า ในขณะที่อีกฝ่าย กระทำการทุกอย่างโดยไม่เคยสนใจกฎกติกk ไม่แคร์ประชาชน แล้วยังจะปล่อยไปได้อย่างไร” นายภูมิธรรม กล่าว










