‘สุริยะ’ รับไม่ได้ เศษชิ้นส่วนรถไฟฟ้าตกใส่ประชาชน สั่งตรวจสอบสัญญา พิจารณาปรับเงิน 125 ล้านบาท รับ สงกรานต์ 67 ถนนพระราม 2 ยังอ่วม เหตุก่อสร้างยังไม่เสร็จ เร่งประสานตำรวจทางหลวง รับมือจราจร
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (2 เม.ย. 67) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม กล่าวถึงกรณีรถไฟฟ้าหลายสายเกิดอุบัติเหตุในช่วงนี้ ทำให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางและผู้ใช้รถไฟฟ้าได้รับความเดือดร้อนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทรวงคมนาคมรับไม่ได้ เพราะกระทบต่อผู้โดยสารรถไฟฟ้าและประชาชนที่อยู่ใต้รางรถไฟฟ้า ตนจึงได้ปรึกษากับ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ให้สั่งการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการตรวจสอบสัญญา เฉพาะในเรื่องบทลงโทษต่างๆ ซึ่งตนได้เห็นตัวสัญญานี้แล้ว โดยทาง รฟม. จะมีการประเมินผลประกอบการของผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าทุกปี ซึ่งในปีนี้จะครบในเดือนกรกฎาคม โดยหากพบว่า ผลประกอบการกระทบต่อความปลอดภัย ก็จะสามารถปรับเงินได้และกระทรวงคมนาคม ก็อุดหนุนผู้ประกอบการในรายนี้ปีละ 2,500 ล้านบาท เราสามารถปรับได้ 5% คือจำนวน 125 ล้านบาท นั่นคือสิ่งที่ต้องดำเนินการให้เคร่งครัด
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า แต่ส่วนหนึ่งที่ตนให้ความสำคัญ คือ สิ่งที่ประชาชนมีความห่วงใย เพราะปรับเงินไปก็คงไม่ใช่เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องการ แต่เขาต้องการถึงความปลอดภัย ซึ่งได้สั่งการให้ผู้รับสัมปทานไปอุดช่องที่เกิดเศษวัสดุตกลงมาให้เรียบร้อย และอีกส่วนหนึ่งก็คือสายสีชมพู ในส่วนต่อขยายที่กำลังก่อสร้างซึ่งก็มีวัสดุตกลงมา ตรงนั้น ได้สั่งการให้ผู้ประกอบการในช่วงก่อสร้างดำเนินสร้างโครงสร้างรองรับไม่ให้เศษวัสดุตกลงมา จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจว่า ทางกระทรวงคมนาคมมีความห่วงใยความปลอดภัยของประชาชนต้องมาอันดับแรก
เมื่อถามว่า ระบบรถไฟฟ้าที่เกิดปัญหาเป็นระบบแบบโมโนเรล ซึ่งในต่างประเทศไม่นิยมใช้ เพราะเหตุผลเรื่องความปลอดภัย นายสุริยะ กล่าวว่า เราต้องไปดูตอนที่กำหนดเงื่อนไขในสมัยรัฐบาลเดิม ที่เขาอาจเห็นว่าเป็นรถไฟแบบโมโนเรลอาจจะถูกกว่า ก็เลยมีการกำหนดแบบนั้นมา เพราะฉะนั้นในช่วงนี้ผู้ที่ได้รับสัมปทานก็ต้องดูแลความปลอดภัย ตนขอใช้คำว่าใส่ใจปัญหาก็จะน้อยลงและสามารถแก้ไขได้ ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของกระทรวงคมนาคมก็ต้องกวดขันความปลอดภัยก็น่าจะเกิดขึ้นได้
ส่วนความคืบหน้าโครงการ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นายสุริยะ กล่าวว่า จากที่ตนเคยให้ข่าวกับสื่อมวลชนและประกาศกับประชาชนไปเชื่อว่านโยบายนี้ทำได้แน่นอน ตอนนี้เรากำลังเสนอพระราชบัญญัติรถร่วม ตรงนี้ก็จะสามารถตั้งกองทุนขึ้นมา และเมื่อมีกองทุนนี้ก็จะสามารถไปดูแล รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายได้ ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของกระทรวงตรวจสอบความเรียบร้อย คิดว่าจะเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ได้เร็วๆ นี้
ส่วนผลประกอบการของรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงที่เก็บค่าใช้บริการ 20 บาท นายสุริยะ กล่าวว่า ตอนนี้จะเห็นประชาชนมาใช้บริการเพิ่มขึ้น 20% ทำให้เห็นได้ว่าหากเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ แม้เราลดราคาเหลือ 20 บาท แต่ก็จะสามารถทำกำไรได้ ส่วนจะมีเฟสต่อๆไปหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ตอนนี้ ส่วนที่กระทรวงคมนาคมทำได้ต้องเป็นในส่วนที่กระทรวงดูแล แต่ในส่วนที่นอกเหนือนั้นเราไม่สามารถไปดูแลได้
รมว.คมนาคม ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้ใกล้เทศกาลสงกรานต์ เชื่อว่าประชาชนก็อยากเดินทางด้วยความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัย ในวันนี้ที่กระทรวงคมนาคมก็จะมีการหารือ ถึงการเดินทางของประชาชนในช่วงสงกรานต์ โดยจะพยายามหาเส้นทางต่างๆ ให้ประชาชนเดินทางหลีกเลี่ยงเส้นทางสายหลัก ไปใช้เส้นทางสายรอง แม้อาจจะไกลกว่า แต่ก็ประหยัดเวลา และตนเองได้สั่งการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยให้ช่วยลดภาระในการเดินทางในเรื่องด่านเก็บเงินต่างๆ การลดราคา ยกเว้นสายวงแหวนตะวันตกที่ยังอยู่ในสัญญา แต่สายอื่นเราจะให้ลดราคา โดยวันนี้จะมีการเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี
นายสุริยะ กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการก่อสร้างถนนพระรามที่ 2 ว่า ตนได้กำหนดแล้วว่าภายในเดือนมิถุนายน 2568 จะต้องก่อสร้างให้เสร็จ โดยขณะนี้ผู้รับเหมามีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมก็ได้ร่วมกับธนาคารต่างๆ ที่จะปล่อยกู้ให้กับผู้รับเหมา ก็จะทำให้สภาพคล่องของผู้ประกอบการดีขึ้น ในขณะเดียวกันตอนนี้กระทรวงคมนาคมได้ปรึกษากับสำนักงบประมาณ เพื่อที่จะดูแล เรื่องค่า k (เงินชดเชยค่างานก่อสร้าง)ที่ยังติดค้างระหว่างผู้รับเหมา ซึ่งการจ่ายค่า k ดังกล่าวก็จะมีข้อกำหนดให้ต้องก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญา
เมื่อถามย้ำว่า สงกรานต์นี้ถนนพระราม 2 รถจะติดหรือไม่ นายสุริยะ ยอมรับว่า “เมื่อการก่อสร้างยังไม่เสร็จ ก็จะติดขัดพอสมควร จึงจะต้องพยายามร่วมมือกับตำรวจทางหลวง เพื่อทำให้การติดขัดนั้นลดน้อยลง”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘รถไฟฟ้าสายสีเหลือง’ แจ้งปิดให้บริการชั่วคราวทุกสถานี หลังอุปกรณ์หล่นบนถนน
รมว.คมนาคม เรียกบริษัทฯ ชี้แจง หลัง ‘สายสีเหลือง’ ล้อหลุด
รฟม.แจงรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ‘โมโนเรล’ ยังต้องแก้หลายๆ ระบบ ยังไม่เปิดทดลองใช้บริการตามกระแสข่าว










