‘เสกสกล’ ระบุตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติไว้นานแล้ว ก่อนที่พรรคพลังประชารัฐจะมีปํญหา พร้อมสนับสนุน ‘พล.อ.ประยุทธ์’ ไม่ทิ้งให้เดียวดาย อย่ามองว่า นายกฯ ไม่มีที่ไป
วันที่ 7 ก.พ. 2565 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อไปทำการเมืองในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ความจริงจดทะเบียนพรรครวมไทยสร้างชาติมาเป็นปีแล้ว ก่อนที่พรรคพลังประชารัฐจะมีปัญหา ซึ่งคำว่า “รวมไทยสร้างชาติ” เป็นคำที่ พล.อ.ประยุทธ์ ชื่นชอบและตั้งคำนี้ขึ้นมาเอง แต่เกรงว่าคนอื่นจะนำชื่อนี้ไปใช้ จึงได้ส่งทีมงานไปจดทะเบียนเป็นชื่อพรรคไว้ก่อน นายกฯ จะใช้หรือไม่ก็แล้วแต่ ซึ่งตนได้แจ้งให้นายกฯ รับทราบแล้ว ซึ่งนายกฯ ก็ไม่ได้ว่าอะไร ซึ่งขณะนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ มีความเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมากแล้ว มีการตั้งสาขาและหาสมาชิก แจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเป็นไปตามระเบียบทุกอย่าง ซึ่งเดือนมีนาคม จะมีการประชุมใหญ่และเปิดตัวผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง มีประวัติดี โปรไฟล์ดี
นายเสกสกล ระบุว่า การที่จดทะเบียนพรรครวมไทยสร้างชาติ มีความชัดเจนว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อไป และคิดว่าอนาคตการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน หากพรรคพลังประชารัฐมีปัญหาก็จะได้มีพรรคการเมืองที่เป็นทางเลือกใหม่ให้นายกฯ ได้พิจารณา และพรรคนี้ถือว่าเป็นพรรคที่มีความชัดเจนในการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และที่สำคัญเป็นการเดินตามแนวทางของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งตนในฐานะเป็นผู้ก่อตั้งก็ได้ประกาศไว้ว่า พรรครวมไทยจะสร้างชาติ จะเป็นพรรคที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ว่าจะมีพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ หรือมีพรรคอื่นที่จะเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ แต่พรรคร่วมไทยสร้างชาติก็จะยืนยันที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์
“นี่ถือจุดยืนของผม และพร้อมทำงานร่วมกับพรรคอื่นๆ ที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ถือเป็นพรรคที่เป็นทางเลือกหนึ่งให้นายกฯ ถ้าคิดว่าพรรคที่อยู่ไม่มีความสุข ผมไม่ต้องการให้นักการเมืองบางคน รุ่นเก่าๆ หรือพรรคเดียวมาบีบ หรือกดดันนายกฯ วางแผนเล่นเกมการเมืองกับนายกฯ ตลอดเวลา อย่าคิดว่าคนอย่างนายกฯ ไม่มีที่ไปหรือไม่มีที่ยืน ยังมีพรรคการเมืองใหม่อีกหลายพรรคที่พร้อมสนับสนุนนายกฯ ในฐานะที่อยู่เคียงข้างนายกฯ มาตลอดจะไม่ยอมให้นายกฯ โดดเดี่ยวเดียวดายแน่นอน” นายเสกสกล กล่าว
นายเสกสกล กล่าวว่า สำหรับพรรคพลังประชารัฐที่ลาออกมานั้น ปกติก็ไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมใดๆ อยู่แล้ว และเขาก็ไม่เคยเรียกใช้ตนอยู่แล้ว ดังนั้นก็ต้องหาทางหาพรรคการเมืองใหม่และยึดคติที่ว่า “เป็นหัวหมา ดีกว่าเป็นหางราชสีห์” ทำพรรคเอง เชิญผู้หลักผู้ใหญ่ และคนรุ่นใหม่ เยาวชนทั้งหลาย อดีตนักการเมืองรุ่นเก่า รุ่นใหม่ มาช่วยกันสร้างพรรคให้เป็นประโยชน์แต่ต้องเป็นคนดี ภาพพจน์ดีไม่มีสีเทาหรือประวัติด่างพร้อย
เมื่อถามว่า ในพรรคพลังประชารัฐ จะมีคนอื่นๆ ออกมาตามมาอีกหรือไม่ นายเสกสกล กล่าวว่า มีแน่นอน ตอนนี้หลายคนยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็มั่นใจว่าจะออกมาอีกหลายคนแน่นอน










