‘ธีรรัตน์’ ค้านปลดโควิดออกจาก UCEP ชี้ไม่ใช่เวลา ตัวเลขผู้ติดเชื้อ-ATK กำลังขึ้นสูง แนะถ้ารัฐบาลอยากจะยุบอะไรควรยุบศบค.และเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ให้ดีที่สุดคือ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก

วันที่ 18 ก.พ. 2565 น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. กทม. เขต 18 พรรคเพื่อไทย อภิปรายค้านการปลดโรคโควิด-19 vออกจากสิทธิการรักษาฉุกเฉิน หรือ UCEP (ยูเซป) โดยสรุปกล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ก.พ. มีข่าวว่ารัฐบาลเตรียมปลดโควิดออกจากสิทธิการรักษาฉุกเฉิน หรือที่เรียกกันว่ายูเซปและปรับโควิดให้เป็นโรคประจำถิ่น พรรคเพื่อไทยขอให้รัฐบาลทบทวนใหม่ เพราะยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ทั้งยังเป็นการผลักภาระให้ประชาชนรัฐบาลควรจะเรียนรู้ความผิดพลาดจากอดีตว่าการบริหารที่ผ่านมาทำให้ประชาชนเสียชีวิตจากโควิดไม่มีที่รักษาจำนวนมาก
โดยตัวเลข ATK ที่สูงขึ้นในขณะนี้ เป็นเวลาที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะขณะนี้ยังไม่มีอะไรรับรองว่า “โควิด” จะเป็นโรคประจำถิ่นได้ และแม้รัฐบาลจะประกาศว่าถึงปลดโควิดออกจากยูเซปแล้ว ประชาชนจะยังรักษาฟรีได้ตามสิทธิที่ตนมี ไม่ว่าจะเป็นสิทธิบัตรทอง สิทธิประกันสังคม หรือบัตรข้าราชการ แต่ในสถานการณ์ขณะนี้ ที่ผู้สื่อข่าวหลายแห่งได้รายงานว่า เตียงของรัฐส่วนใหญ่ได้เต็มหมดแล้ว ไม่มีอะไรที่จะสามารถบอกได้ว่าผู้ที่มีสิทธิตามที่กล่าวมานี้จะได้รับการรักษาตามสิทธิที่ท่านได้กล่าวเลย
และท่านต้องตอบให้ได้ว่า หน่วยไหนจะรับผิดชอบกับการที่ผู้ติดเชื้ออาการไม่รุนแรงแล้วต้องกักตัว และถ้าสูญเสียหน่วยไหนจะมารับผิดชอบค่าใช้จ่าย การบอกว่ายังรักษาฟรีแบบตามสิทธินั้น คำตอบเช่นนี้ไม่ได้ทำให้ประชาชนมั่นใจได้เลย ขอบคุณบุคลาการทางการแพทย์ที่ทำงานด้วยความเสียสละ ขณะที่รัฐบาลแสดงความเห็นแก่ตัวประหยัดค่าใช้จ่ายแต่กลับใช้ส่วนอื่นไม่จำเป็น
นอกจากนี้ น.ส. ธีรรัตน์ ยังกล่าวว่า สถานการณ์โควิดที่เป็นตัวกระตุ้นให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย กับนักเรียนในเมืองและนักเรียนชานเมือง โดยผู้อำนวยการโรงเรียนตามต่างจังหวัดได้บอกกับตนว่า ต้องใช้งบส่วนตัวหรือทอดผ้าป่าไปซื้อ ชุดตรวจ ATK ขณะที่บางพื้นที่มีการแจกฟรี แต่บางพื้นที่ขอแล้วขออีกก็ไม่ให้
ทั้งนี้ ผลกระทบจากโควิด ยังทำให้มีเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษากว่า 1,200,000 คน และอีกมากที่ยังประสบปัญหาว่าไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ พร้อมยกตัวอย่างมาตรการของหลายประเทศเพื่อช่วยไม่ให้เด็กหลุดจากระบบการศึกษา อาทิ สก๊อตแลนด์ ที่ยกเลิกการสอบวัดระดับเพื่อไม่ให้เด็กถูกกีดกันจากระบบการศึกษา ให้ผู้สอนสามารถประเมินผู้เรียนได้ตามดุลพินิจ ขณะที่ประเทศไทยไม่ว่าจะสอบอะไร เด็กจะติดโควิดหรือไม่ก็ต้องไป สำหรับกรณีที่รัฐบาลแจกเงินรายละ 2,000 บาท น.ส.ธีรรัตน์ เห็นว่า เป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด เพราะการเรียนออนไลน์มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะค่าไฟฟ้า ค่าอินเตอร์เน็ต อุปกรณ์ โทรศัพท์มือถือ ซึ่งได้กลายเป็นภาระของผู้ปกครองที่มีฐานะยากจน

“ถ้ารัฐบาลจะปลดโควิดออกจาก ucep ของรัฐบาลพิจารณาให้ดีเสียก่อนว่ารัฐบาลกำลังจะทำลายผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติหรือไม่ หรือหากรัฐบาลอยากจะทำอะไรสักอย่าง อยากจะยุบอะไรแล้วเกิดประโยชน์ ขอเสนอให้รัฐบาลยุบศบค. และยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มีวัตถุประสงค์เพียงแค่ว่าจำกัดสิทธิเสรีภาพของกลุ่มผู้เรียกร้องทางการเมืองจะดีเสียกว่า ยิ่งไปกว่านั้น วิธีที่ดีที่สุดที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรที่จะทำนั่นก็คือ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างสูงสุด” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย










