พปชร. สรุปปี 62 นายกฯ ผลักดันกฎหมาย 74 ฉ. ผ่านรัฐสภาแล้ว 42 ฉ.

พปชร. สรุปปี 62 นายกฯ ผลักดันกฎหมาย 74 ฉ. ผ่านรัฐสภาแล้ว 42 ฉ.

การเมือง

‘ทิพานัน’ วอนฝ่ายการเมืองเร่งผลักดันกฎหมายเพื่อประชาชน เผยผลงานตั้งแต่ปี 62 นายกฯ ผลักดันกฎหมายสำคัญ 74 ฉบับ ผ่านมติรัฐสภาแล้ว 42 ฉบับ เหลือ กม.ปฏิรูป 32 ฉบับค้างสภา

วันที่ 24 ก.พ. 2565 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถิติกฎหมายที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเร่งผลักดันเพื่อประโยชน์ของประชาชนซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลว่า ตั้งแต่ที่ 16 ก.ค. 2562 ที่พล.อ.ประยุทธ์ เข้ารับตำแหน่งตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญ 2560 นั้น รัฐบาลได้เสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภาเพื่อประโยชน์ของประชาชนไปแล้วทั้งสิ้น 74 ฉบับ โดยมีกฎหมายที่ผ่านมติของรัฐสภาแล้ว 42 ฉบับ และยังเหลืออีก 32 ฉบับที่ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของรัฐสภาซึ่งส่วนใหญ่เป็นกฎหมายที่เป็นกลไกหลักในการปฏิรูปประเทศ

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า กฎหมายที่ผ่านมติของรัฐสภา 42 ฉบับน มีกฎหมายสำคัญเพื่อประชาชนหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 ที่ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร โดยกองทุนฟื้นฟูฯ จะรับภาระชำระหนี้แทนเกษตรกรที่มีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน, พรบ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 53) พ.ศ. 2564 ที่ออกมาเพื่อให้ประเทศมีรายได้เพิ่มมากขึ้น 5 พันล้านบาทต่อปี จากผู้ให้บริการต่างประเทศทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศที่มีรายได้ในไทยเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจาก, ประมวลกฎหมายยาเสพติดเพื่อปรับกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด และสามารถใช้กัญชาในการรักษาโรคได้ อีกทั้งยังมี พ.ร.ก.กู้เงิน 2 ฉบับ ที่นำมาใช้ในการเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจขับเคลื่อนประเทศของวิกฤติโควิด-19 และ พรก.ประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 2563 ที่ช่วยให้หน่วยงานราชการประชุมออนไลน์และดำเนินการเพื่อบริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่องแม้ในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดโควิด

น.ส. ทิพานัน กล่าวว่า ส่วนร่างกฎหมายอีก 32 ฉบับ ที่ยังรอการพิจารณาจากรัฐสภาล้วนเป็นกฎหมายที่สำคัญต่อประชาชนและจะทำให้ประเทศปฏิรูปเดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว เช่น การสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เช่น ร่างพรบ.การปรับเป็นพินัย ที่เป็นการปฏิรูปกฎหมายครั้งสำคัญโดยกำหนดให้ผู้กระทำความผิดเพียงเล็กน้อยต้องชำระค่าปรับอย่างเดียว ไม่มีการจำคุกหรือกักขังแทนการปรับ และไม่มีการลงบันทึกในประวัติอาชญากรรม, ร่างพรบ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้ประชาชนได้รับความยุติธรรมอย่างรวดเร็วและมีกำหนดระยะเวลาการดำเนินงานทุกขั้นตอน รวมถึง ร่าง พ.ร.บ. มาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง เพื่อไม่ให้ผู้พ้นโทษคดีดังกล่าวมีโอกาสทำผิดซ้ำอีกหลังจากพ้นโทษ

สำหรับกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษาที่รัฐบาลเสนอให้รัฐสภาพิจารณานั้น น.ส.ทิพานันกล่าวว่า มีค้างพิจารณาอยู่หลายฉบับ เช่น ร่างพรบ.ส่งเสริมการเรียนรู้ตามหลักการ Education for all เพื่อพัฒนาประชาชนทุกช่วงวัยให้สามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิตและสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับกลุ่มผู้ด้อยโอกาส, ร่างพรบ.การศึกษาแห่งชาติ ที่ปรับแก้ กม.เก่าที่ใช้มา 20 ปีให้การจัดการศึกษาสอดคล้องกับสถานการณ์โลกในปัจจุบัน และยังมีร่าง พรบ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่จะลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงให้ไม่เกิน 2% ต่อปีและปรับเงื่อนไขให้ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน อีกด้วย

‘เมื่อดูจำนวนตัวเลขและรายละเอียดกฎหมายที่ฝ่าบบริหารเสนอไปยังฝ่ายนิติบัญญัติ ก็จะเห็นได้ชัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารดำเนินการเต็มที่เพื่อให้ประเทศไทยมีการพัฒนา มีการปฏิรูป แต่ความล่าช้าตอนนี้เกิดขึ้นในขั้นตอนกระบวนการนิติบัญญัติในรัฐสภา ดังนั้นนักการเมืองฝ่ายค้านที่ชอบอ้างว่าเป็นผู้แทนราษฎรเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนก็ต้องแสดงให้คนเห็นว่าทำจริงตามที่พูด ก็ขอให้เข้าประชุมสภาทำงาน พิจารณาเร่งผลักดันกฎหมายที่มีความสำคัญต่อการปฏิรูปประเทศ หยุดปั่นเกมการเมืองโดยการล่มสภา หรือเตะถ่วงไม่ยกมือผ่านร่างกฎหมายโดยเอาผลประโยชน์ของประชาชนมาเป็นตัวประกัน’ น.ส.ทิพานัน กล่าว

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง
TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
พปชร. สรุปปี 62 นายกฯ ผลักดันกฎหมาย 74 ฉ. ผ่านรัฐสภาแล้ว 42 ฉ.