‘ร.อ.ธรรมนัส’ ปัดต่อรองตำแหน่ง มท.1 ให้ ‘พล.อ.ประวิตร’ แลกเสียงหนุนรัฐบาล ยันพรรคเศรษฐกิจไทยทำการเมืองสร้างสรรค์ ทิ้งท้ายการเมืองวุ่นเพราะใคร ขณะที่ ‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง กกต.สอบ ‘พล.อ.วิชญ์’ เข้าข่ายครอบงำพรรคเศรษฐกิจไทย
วันที่ 7 ก.พ. 2565 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ตามที่มีข่าวจากสำนักข่าวบางสำนักเผยแพร่ข่าวว่าผมและกลุ่มพี่น้อง ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ได้มีการประชุมกันที่ภูเก็ตและได้มีมติว่า ทางพรรคจะร่วมรัฐบาลโดยขอต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พลังประชารัฐ
ผมและกลุ่มพี่น้อง ส.ส. พรรคเศรษฐกิจไทย ขอยืนยันจุดยืนเดิม คือขอทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้งดำรงไว้ซึ่งเสาหลักของบ้านของเมือง นั่นคือ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ครับ#การเมืองวุ่นเพราะใคร
‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง กกต.สอบ ‘พล.อ.วิชญ์’ เข้าข่ายครอบงำพรรคเศรษฐกิจไทย
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ไต่สวน สอบสวนและวินิจฉัยกรณีที่มีเพจเฟซบุ๊กชื่อ อาน้อย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา โพสต์ข้อความข้อความเมื่อ 3 ก.พ.65 ใจความว่า ขอลาออกจากตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ เพื่อรับหน้าที่หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย สานต่อนโยบายของพี่ป้อม นั้น ว่าการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตาม ม.29 พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 เพราะบุคคลดังกล่าวยังไม่ปรากฎว่าได้เป็น”สมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทย” แต่กลับกระทำการในลักษณะชี้นำหรือครอบงำ “พรรคเศรษฐกิจไทย ”
แม้ในเวลาต่อมา แอดมินจะออกมาแก้ข่าวว่า มิได้เป็นการกระทำของ พล.อ.วิชญ์ แต่อย่างใด แต่ตนเห็นว่าคำแก้ตัวดังกล่าวไม่สามารถรับฟังได้ เพราะโดยปกติเจ้าของเพจจะทำด้วยตนเองหรือมีแอดมินเพจ แต่การจะโพสต์ข้อความหรือรูปภาพใด ต้องผ่านการคัดกรองตรวจสอบจากเจ้าของเพจเสียก่อนไม่เช่นนั้นหากปล่อยให้แอดมินเพจโพสต์ข้อความ รูปภาพไปอาจทำให้มีความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญาหรือพ.ร.บ.การกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ได้ ฉะนั้นการออกมาบอกว่าพล.อ.วิชญ์ ไม่รู้เห็นด้วยนั้น คงฟังไม่ขึ้น
ดังนั้นการกระทำดังกล่าว จึงอาจจะเข้าข่ายการฝ่าฝืน พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา29 ซึ่งเรื่องเหล่านี้ตนคิดว่า กกต.สามารถวินิจฉัยได้ชัดเจน ที่ว่าหลังจากนี้การประชุมใหญ่พรรคการเมืองของ”พรรคเศรษฐกิจไทย” แล้วสรุปว่า พล.อ.วิชญ์ ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคจริง ดังนั้นการโพสต์ข้อความดังกล่าวถือเป็นยุทธศาสตร์ทางการเมืองของ พล.อ.วิชญ์ ที่มีเป้าประสงค์ทางการเมืองเรื่องเหล่านี้ กกต.ต้องวินิจฉัย ให้เป็นบรรทัดฐานว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดหรือไม่
ส่วนการร้องจะส่งผลต่อ 21 ส.ส. ที่ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐและจะเข้า “พรรคเศรษฐกิจไทย” ด้วยหรือไม่นั้น นายศรีวรรณ กล่าวว่า เคยยื่นร้องเรียนต่อ กกต.ไปแล้วถึงมติการขับไล่ ส.ส. 21 คน ออกจากพรรคพลังประรัฐว่ามตินั้น เป็นการขับไล่ด้วยชอบตามข้อบังคับหรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะเกี่ยวพันกับเรื่องที่มายื่นวันนี้ ซึ่งทราบมาว่า กกต.จะประชุมเพื่อหารือในวันที่ 14 ก.พ. คาดว่าน่าจะนำทั้ง 2 เรื่อง เข้าพิจารณา ถ้าเรื่องขับ ส.ส.เป็นไปโดยมิชอบก็ต้องดูว่าทาง กกต.จะมีข้อสรุปอย่างไร ทั้งนี้อาจจะเข้าข่ายความผิดหรือฝ่าฝืน อนุมาตรา 3 เพราะถ้าการที่ดำเนินการทางการเมือง โดยไม่ได้เป็นไปตามข้อบังคับพรรค ก็อาจจะเข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครองด้วย ทำให้ถูกยุบพรรคพลังประชารัฐได้
