แนวโน้มน้ำเหนือเพิ่มขึ้น กรมชลฯ ปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา

แนวโน้มน้ำเหนือเพิ่มขึ้น กรมชลฯ ปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 

กรมชลประทาน ปรับการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา สอดคล้องกับปริมาณน้ำฝนน้ำท่า หลังมีฝนตกชุกในพื้นที่ตอนบนของภาคเหนือตอนล่าง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยันสถานการณ์น้ำไม่เหมือนปี 54

กรมชลประทาน โดยศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เช้าวันนี้ (11 กันยายน 65) เวลา 06.00 . ที่สถานี C.2 .เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,690 ลูกบาศก์เมตร (ลบ..)/วินาที (วานนี้ 1,578 ลบ../วินาที) ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 4.04 เมตร แนวโน้มเพิ่มขึ้น ควบคุมการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่สถานี C.13 .สรรพยา จ.ชัยนาท ในอัตราประมาณ 1,598 ลบ../วินาที (วานนี้ 1,500 ลบ../วินาที) ระดับน้ำเหนือเขื่อน +16.12 เมตรเทียบกับระดับน้ำทะเลปานกลาง

ทั้งนี้ ฝนที่ตกชุกสะสมในพื้นที่ประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่าไหลลงสู่แม่น้ำสายหลัก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น กรมชลประทาน จะทยอยปรับการระบายน้ำอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเกณฑ์ 1,700 ลบ../วินาที เพื่อให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝนน้ำท่า จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำในระยะนี้อย่างใกล้ชิด จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน

ด้าน นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากปริมาณน้ำในปีนี้ ได้แตกต่างจากปี 54 จึงอยากเปรียบเทียบให้หายกังวลว่า ในช่วงเดือน ก.ย.ปีนี้ เวลาเดียวกันกับปี 54 พายุได้เข้ามาแล้ว 5 ลูก ขณะนั้นน้ำในเขื่อน 4 เขื่อนหลัก คือ ภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยบำรุงแดน ป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณรวมกันกว่า 2 หมื่นล้าน ลบ.ม. รับได้น้ำได้อีก 3 พันล้าน ลบ.ม. แต่ปี 65 ยังไม่มีพายุเลย น้ำใน 4 เขื่อนหลัก มีรวมกัน 1.3 หมื่นล้าน ลบ.ม. ยังสามารถรับน้ำได้อีกหมื่นกว่า ลบ.ม. จึงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ไม่น่าเกิดความกังวลมากมาย เพียงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ฝนจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถานการณ์น้ำจากกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง