ศาลฎีกาฯ นัดพิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีที่ ‘ถวิล เปลี่ยนศรี’ อดีตเลขาฯ สมช.ฟ้อง ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ อดีตนายกฯ รัฐมนตรี โยกย้ายโดยมิชอบ ออกหมายจับจำเลย เนื่องจากไม่มาตามนัด ตรวจหลักฐานอีกที 14 มี.ค.66
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นัดพิจารณาคดีครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การจำเลยคดี หมายเลขดำที่ อม.11/2565 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นจำเลยในความ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
กรณีเมื่อช่วงเดือน ก.ย.54 เมื่อครั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกับพวก ใช้อำนาจโอนย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในขณะนั้นให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำโดยมิชอบ โดยอัยการสูงสุดนำคดีมายื่นฟ้องต่อศาลฎีกาฯ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.65 ที่ผ่านมา
โดยเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ พิจารณาแล้วมีคำสั่งประทับฟ้องคดีไว้พิจารณา ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560มาตรา 27และได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยทราบโดยวิธีปิดหมายกับประกาศที่หน้าศาลฎีกาฯ และนัดพิจารณาคดีครั้งแรกวันนี้
วันนี้ผู้รับมอบอำนาจโจทก์มาศาล ส่วนจำเลยไม่เดินทางมาศาล โดยจำเลยแต่งตั้งนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง และนายวิญญัติ ชาติมนตรี เป็นทนายจำเลย
อัยการโจทก์แถลงว่า ปัจจุบันจำเลยไม่ได้ดำรงตำแหน่งใดในทางการเมือง กรณีจึงไม่จำต้องมี คำสั่งเกี่ยวกับการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยอีกต่อไป
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยมิได้มาศาลตามนัดโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องหรือร้องขอเลื่อนคดีแต่อย่างใด มีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับจำเลย ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทาง การเมือง พ.ศ. 2560มาตรา 28 วรรคหนึ่ง รวมทั้งการที่จำเลยมิได้มาศาลตามนัดให้ถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธ ตามพรป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 33 วรรคสาม ตอนท้าย
ขณะที่ทนายจำเลยแถลงขอยื่นคำให้การเพิ่มเติมเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ศาลอนุญาตตามขอ และนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 14 มี.ค.2566 เวลา 13.30 น.










