เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น มาจากสงขลาเข้ารับทราบข้อหาเหตุชุมนุมหน้าทำเนียบฯ ค้าน ‘นิคมฯจะนะ’ ขนอาหารทะเลมาเผาแจกให้กลุ่มพีมูฟและเจ้าหน้าที่ตำรวจ

วันที่ 26 ม.ค.2565 แกนนำเครือข่าย ‘จะนะรักษ์ถิ่น’ จำนวน 37 คน เดินทางด้วยรถบัสจากจังหวัดสงขลา มาที่สน.ดุสิต เพื่อ รับทราบ 3 ข้อกล่าวหา กรณีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน (ควบคุมโควิด-19 ), กีดขวางการจราจรและแขวนป้ายกีดขวางโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน จากเหตุการณ์ชุมนุมคัดค้านการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2564
โดย ตำรวจ สน.ดุสิต ได้ให้ทนายความและชาวบ้านจัดเป็นกลุ่มกลุ่มละ 10 คน เรียกชื่อชาวบ้านทีละคน ตรวจบัตรประชาชน วัดอุณหภูมิของร่างกาย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย เดินทางเข้ารายงานตัว พร้อมรับทราบข้อกล่าวหาภายในห้องประชุม ชั้น 2 สน.ดุสิต
เมื่อชาวบ้านทั้งหมดเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้วสามารถเดินทางกลับได้ทันทีโดยไม่ประกันตัวแต่อย่างใด เนื่องจากชาวบ้านได้เดินทางมาตามหมายเรียกซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะกันผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าในบริเวณ สน.ดุสิต เนื่องจากมีพื้นที่จำกัดพนักงานสอบสวน ได้นัดมาพบเพื่อนำตัวทั้งหมดส่งให้อัยการเพื่อพิจารณาต่อไป ในวันที่ 2 มี.ค. 2565 จากนั้นชาวบ้านได้ขึ้นรถบัสเดินทางกลับ จ.สงขลา

น.ส.ไครียะห์ ระหมันยะ กล่าวว่า ชาวบ้านต้องลำบากเดินทางหลายชั่วโมงจากบ้านที่สงขลา เข้ามาพบตำรวจ สน.ดุสิต ต้องอดทนทั้งจากการเดินทาง ต้องอดออมเงิน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเช่าเหมารถบัสเข้ามาในกรุงเทพฯ ทั้งที่มาแสดงออกถึงสิทธิในการปกป้องชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ซึ่งเป็นโครงการของรัฐบาล แต่กลับต้องมาถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณริมถนนพระรามที่ 5 ด้านหน้า ยังคงมีกลุ่มพีมูฟ จัดปราศรัยกล่าวโจมตีการบริหารงานที่ล้มเหลวของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทางเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นที่นำอาหารทะเล อาทิ กุ้งสดติดตามาด้วย ได้เผากุ้งแจกจ่ายให้กับกลุ่มพีมูฟและแบ่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย










