“พาณิชย์” จัดให้! โครงการเร่งด่วนช่วยเหลือประชาชน นำข้าวสารเหนียวบรรจุถุงไปวางจำหน่ายที่ร้านธงฟ้าทั่วประเทศในวันที่ 11 ก.ย.นี้ แล้ว โดยราคาข้าวสารเหนียวจะถูกกว่าท้องตลาด 10-15 บาท/กก. ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่ราคาข้าวเหนียวปรับเพิ่มขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า มีผลต่อภาระค่าใช้จ่ายด้านอาหารของผู้บริโภคและต้นทุนการผลิตของ ผู้ประกอบการอาหาร ที่มีข้าวเหนียวเป็นวัตถุดิบ
เมื่อวันที่ 8 ก.ย.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้า ในการช่วยเหลือผู้บริโภคข้าวเหนียวราคาสูง จากผลผลิตขาดแคลน ว่า ในวันที่ 11 กันยายนนี้ กรมการค้าภายในจะดำเนินการกระจายข้าวสารเหนียวบรรจุถุงราคาถูกไปจำหน่ายที่ร้านธงฟ้าทั่วประเทศ เน้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง ที่ผู้บริโภครับประทานข้าวเหนียวเป็นหลัก
ด้านนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะนี้กรมการค้าภายใน ได้กำหนดเงื่อนไขในการวางจำหน่ายข้าวสารเหนียวบรรจุถุง โดยเริ่มแรกจะกระจายในร้านธงฟ้าทั่วประเทศ จากนั้นจะนำบางส่วนไปจำหน่ายในห้างปลีก โดยในร้านธงฟ้าอนุญาตให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาซื้อได้แต่กำหนดห้ามเกินคนละ 2 ถุง เพื่อป้องกันการสวมรอยแล้วนำไปจำหน่ายต่อ
ส่วนห้างค้าปลีกนั้น จะอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซื้อเท่านั้น โดยราคาข้าวสารเหนียวจะถูกกว่าท้องตลาด 10-15 บาทต่อกก. โดยข้าวเหนียวถุง 2 กก. มีราคา 70 บาทต่อถุง และถุง 5 กก. มีราคา 160 บาทต่อถุง ซึ่งค่าเฉลี่ยต่อกก. ถุง 5 กก.จะมีราคาถูกกว่าเพราะมีต้นทุนในการผลิตต่ำกว่า
เบื้องต้นหากพบว่าผู้ใด ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าหรือคนทั่วไปที่ซื้อแล้วมาจำหน่ายต่อไปขายเกินราคาที่ติดไว้หน้าถุงจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเข้มงวด
ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาข้าวเหนียวที่ขยับสูงขึ้นเริ่มส่งผลกระทบในวงกว้างต่อผู้ประกอบการทั้งห่วงโซ่การผลิตและส่งผ่านผลกระทบดังกล่าวไปสู่ครัวเรือนที่บริโภคข้าวเหนียวเป็นหลัก ทั้งนี้แม้ว่าข้าวเหนียวจะไม่ใช่อาหารหลักของคนไทยส่วนใหญ่ แต่กว่า 95% ของการผลิตข้าวเหนียวของไทยเป็นการผลิตเพื่อบริโภคในประเทศ
ดังนั้น ผลกระทบจากการปรับขึ้นของราคาข้าวเหนียวที่เกิดขึ้นจึงมีผลต่อภาระค่าใช้จ่ายด้านอาหารของผู้บริโภคและต้นทุนการผลิตของ ผู้ประกอบการอาหาร ที่มีข้าวเหนียวเป็นวัตถุดิบ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
