ประกาศออกมาแล้วกับกำไรของกลุ่ม ปตท. เจ้าของกลุ่มบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 กลุ่ม ปตท.ทำกำไรรวมกันกว่า 1.64 แสนล้านบาท
แน่นอนว่าบริษัทแม่ บมจ.ปตท. (PTT) ยังเป็นตัวที่ทำกำไรสูงสุด 79,258 ล้านบาท ซึ่งนอกจากกำไรจากการทำธุรกิจแล้ว ส่วนหนึ่งก็มาจากการรับรู้กำไรจากบริษัทลูกในเครือตามสัดส่วนการถือหุ้น
ถัดมาคือ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ที่ทำกำไรเป็นอันดับสองที่ 58,422 ล้านบาท ส่วนอันดับสามคือ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ทำกำไรไป 16,498 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ตัวที่กำไรเติบโตได้ดีที่สุดในช่วง 9 เดือนแรกคือ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) โดยทำกำไรปีนี้ไปแล้ว 3,216 ล้านบาท เติบโต 142% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ที่ 1,327 ล้านบาท
แต่ใช่ว่าจะมีแต่บริษัทที่กำไร เพราะในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ยังคงขาดทุนอยู่ 4,082 ล้านบาท แม้จะพลิกกลับมาทำกำไร 1,426 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ก็ตาม

‘อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. บอกว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ปตท.และบริษัทย่อยมีรายได้ 2,337,438 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 79,259 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.3% จากช่วงเดียวกันของปี 2565
โดยบริษัทฯ ขาดทุนจาก Hedging ลดลง และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น แต่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่เริ่มผ่อนคลาย รวมถึงดีมานด์ที่ลดลงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้ EBITDA ของกลุ่มลดลง
ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท.ยังนำส่งเงินเข้าภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา บอร์ด ปตท.มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ส่งผลให้กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ และกองทุนวายุภักษ์ จะได้ปันผลรวมประมาณ 14,000 ล้านบาท
เมื่อรวมกับภาษีเงินได้นิติบุคคลของ ปตท.และบริษัทในเครืออีกประมาณ 34,000 ล้านบาท รวมๆ แล้ว กลุ่ม ปตท.จะนำส่งรายได้จากการดำเนินธุรกิจ 9 เดือนแรกของปี 2566 ให้กับรัฐแล้วประมาณ 48,000 ล้านบาท
ความเห็นของนักวิเคราะห์ ‘นลินรัตน์ลิน กิตติกำพลรัตน์’ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้มุมมองการลงทุนหุ้น ปตท. โดยแนะนำซื้อลงทุนระยะยาว จากกำไรที่ยังคงแข็งแกร่งจากการเป็นกลุ่มบริษัท (Holding Company)
อีกทั้งช่วงที่ผ่านมา ราคาหุ้นน่าจะผ่านการปรับฐาน สะท้อนปัจจัยกระทบต่างๆ ไปแล้วระดับหนึ่ง รวมถึงเป็นหุ้นที่มีการจ่ายปันผลในระดับที่ดี จึงคาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนจะใกล้เคียงกับตลาด ราคาเหมาะสม 41.00 บาทต่อหุ้น










