Rabbit Care โบรกเกอร์ประกันภัยในเครือ BTS ชี้เทรนด์คนซื้อประกันออนไลน์เพิ่มขึ้น หนุนเบี้ยประกันปีนี้เติบโตตามเป้าหมาย 3,000 ล้านบาท
บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด หรือ Rabbit Care ผู้ให้บริการโบรกเกอร์ประกันภัย รวมถึงแพลตฟอร์มเปรียบเทียบบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า
ตลาดประกันออนไลน์มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แม้หมดยุคโควิด-19 ไปแล้ว สะท้อนจากพอร์ตของบริษัทฯ ที่แม้ปัจจุบันช่องทางการขายประกันผ่านทางโทรศัพท์ (Telesale) จะยังเป็นช่องทางหลักที่ลูกค้าใช้บริการราว 90%
อย่างไรก็ตาม ‘ไมเคิล มันเฟรด สไตลเบิล’ ซีอีโอของ Rabbit Care พบว่า การซื้อประกันผ่านช่องทางออนไลน์มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ลูกค้าเริ่มเข้ามาใช้บริการ และคุ้นชินกับช่องทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเป็นเทรนด์ต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงโควิด-19
ความต้องการซื้อประกันที่เพิ่มขึ้นทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ส่งผลให้ Rabbit Care คาดว่า เบี้ยประกัน (Insurance Premium) ของบริษัทฯ ปีนี้ จะเติบโตแตะ 3,000 ล้านบาท ติดท็อป 3 ผู้ให้บริการของอุตสาหกรรม
เมื่อสอบถามถึงจุดแข็งที่แตกต่างจากผู้เล่นอื่นในตลาด ซีอีโอของ Rabbit Care กล่าวว่า นอกจากการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีเข้ามาในแพลตฟอร์มแล้ว บริษัทฯ ยังสามารถเสนอราคา (Quatation) แก่ลูกค้าได้ทันที ซึ่งเป็นข้อจำกัดหนึ่งที่แพลตฟอร์มอื่นๆ ยังไปไม่ถึง
นอกจากนี้ Rabbit Care ยังมีโปรโมชั่นพิเศษที่ทำร่วมกับพันธมิตร เช่น การทำประกันรถรุ่นพิเศษ และประกันราคาพิเศษ เป็นต้น รวมถึงการอำนวยความสะดวกเรื่องอื่นๆ แก่ลูกค้า เช่น การรับชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ และการออกกรมธรรม์ส่งให้ลูกค้าทันที
เมื่อถามเพิ่มเติมถึงการแข่งขันด้านราคา ผู้บริหาร Rabbit Care กล่าวว่า การแข่งขันด้านราคา คงไม่ใช่กลยุทธ์ที่บริษัทฯ เลือกใช้ เพราะสามารถแข่งขันได้ในระยะสั้น เช่น ปีแรกที่ลูกค้าเข้าทำประกันเท่านั้น
แต่ในปีถัดๆ ไปก่อนต่ออายุกรมธรรม์ (Renewal) ยังไงก็ต้องปรับขึ้นราคาอยู่ดี ซึ่งจุดนี้ทำให้แพลตฟอร์มโบรกเกอร์ประกันอื่นๆ มียอด Renewal ที่ต่ำ ในขณะที่ Rabbit Care มียอดต่ออายุกรมธรรม์ที่ค่อนข้างสูงกว่าตลาดที่ 70%
ขยับมาที่แพลตฟอร์มเปรียบเทียบบัตรเครดิต ซึ่งเป็นอีกธุรกิจของ Rabbit Care ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่า มีการเติบโตที่ก้าวกระโดด โดยมียอดลงทะเบียน (Registration) ราว 100,000 รายต่อเดือน ซึ่งใน 100,000 ราย
ที่น่าสนใจคือ ลูกค้าที่ลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์มของบริษัทฯ มียอดได้รับอนุมัติ (Approval) สูงกว่าตลาดถึง 5 เท่า โดย 100,000 รายที่สมัครเข้ามา ได้รับอนุมัติราว 6,000-8,000 ราย ส่งผลให้สถาบันการเงิน ทั้งธนาคาร (Bank) และสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-bank) สนใจเข้ามาทำธุรกิจกับบริษัทฯ
ทั้งนี้ Rabbit Care อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรใหม่ราว 2-3 ราย ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวภายในไตรมาส 4 ปีนี้ จากปัจจุบันมีพาร์ทเนอร์บนแพลตฟอร์มแล้ว 6 ราย คือ เคทีซี ซิตี้แบงก์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารกรุงเทพ และอเมริกัน เอ็กซ์เพรส
ส่วนเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจแพลตฟอร์มบัตรเครดิต คาดว่าภายในสิ้นปี 2565 จะเห็นยอด Registration ที่มากกว่า 300,000 ราย
สำหรับเป้าหมายระยะยาว Rabbit Care ตั้งเป้าหมายระดมทุนในตลาดหุ้นภายในอีก 4 ปีนับจากนี้ (2569) และคาดว่าในอนาคตจะเห็นบริการใหม่ๆ เช่น แพลตฟอร์มเปรียบเทียบค่าโทรศัพท์ หรือแพลตฟอร์แนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เป็นต้น
