นายกฯ ยังคงการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ไว้เช่นเดิม ป้องกันสายพันธุ์โอไมครอน

วันที่ 30 พ.ย. 2564 เวลา 13.20 น. บริเวณทางเชื่อมตึกสินติไมตรีและตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงกรณี ศบค. มีมติเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2564 เตรียมปรับวิธีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับนักเดินทางชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่มาจากประเทศที่เข้าข่ายยกเว้นการกักตัว 63 ประเทศ/พื้นที่ หรือนักท่องเที่ยวรูปแบบ Test & Go จาก RT-PCR เป็นการตรวจแบบ ATK แทน
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะยังคงใช้วิธีการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ไว้เช่นเดิม ตามข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีการหารือในที่ประชุมครม. เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

ด้าน นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จะใช้วิธีตรวจ RT-PCR จนกว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลง หรือทราบข้อมูลว่าโอไมครอนมีผลแพร่กระจายเชื้อเร็วกว่าเดลตาหรือผู้ป่วยอาการรุนแรงกว่าหรือไม่ โดยเราจะติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดจากประเทศที่มีการระบาดเชื้อดังกล่าว อย่างไรก็ตามจำนวนหนามของไวรัสที่มีมากขึ้นเป็นข้อสันนิษฐานที่น่ากังวล แต่ก็ไม่ตื่นตระหนก โดยจะตรวจอย่างเข้มข้นมากขึ้นทั้งทางอากาศ ช่องทางธรรมชาติ ทางบก และทางเรือ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการหน่วยงานความมั่นคงไปแล้วว่าต้องจัดการอย่างเข้มข้น และมีการคาดโทษกรณีมีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้มีการเข้าประเทศผิดกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ตรวจพบผู้ติดเชื้อโอไมครอน ที่ประเทศสิงคโปร์แล้ว กังวลจะเข้ามาไทยหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า เราติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะนี้ทราบว่า พบการระบาดในหลายประเทศ หากมีการตรวจพบเชื้อในคนที่เดินทางเข้าประเทศ เราจะตรวจอีกครั้งว่าเป็นสายพันธุ์อะไร สิ่งที่เรากังวลคือหากมาทางช่องทางธรรมชาติ จะไม่ทราบว่าเป็นสายพันธุ์อะไร หากเข้ามาระบาดแล้วตรวจพบทีหลังจะตามหาต้นตอยากขึ้น แต่ถ้าพบที่ต้นตอก็จะจัดการตามมาตรการได้
เมื่อถามว่า หากพบเชื้อโอไมครอนจะประกาศล็อกดาวน์เลยหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า มาตรการของ พล.อ.ประยุทธ์ หากตรวจพบต้องรีบรายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ทราบทันที เพื่อหารือและให้ตัดสินใจอย่างรวดเร็วว่าจะมีมาตรการอย่างไร










