กรมอนามัย จับมือ ศธ. เปิดแนวทาง Sandbox Safety Zone in School หวังเด็กเข้าเรียนในโรงเรียนภาคการศึกษาหน้า
วันที่ 7 ส.ค. 2564 นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เตรียมจัดทำแนวปฏิบัติ Sandbox safety in school หนุนให้เด็กนักเรียนได้เรียนในโรงเรียนด้วยความปลอดภัย โดยจะมีการจำกัดบุคคล เข้า – ออก โรงเรียนอย่างชัดเจน และจะมีการคัดกรองตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยใช้วิธี Rapid Antigen Test เน้นการทำกิจกรรมในรูปแบบ Bubble and Seal มีระบบติดตามเข้มงวดของครูและบุคลากรพร้อมเฝ้าระวังสุ่มตรวจทุก 14 วันหรือ 1 เดือนต่อภาคการศึกษา และประเมินความเสี่ยงผ่าน Thai save Thai สม่ำเสมอ และเข้าถึงการฉีดวัคซีนครอบคลุมมากกว่า 85% ส่วนนักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจะพิจารณาฉีดวัคซีนให้ตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป
กรณีโรงเรียนมีการเปิดเรียนแล้วแต่ต้องปิดเรียนเนื่องจากมีการติดเชื้อภายในโรงเรียนต้องปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุของ สธ. อย่างเคร่งครัด โดยมีโรงเรียนเข้าร่วมนำร่องจำนวน 100 โรงเรียนในเดือนสิงหาคมนี้ แต่สำหรับโรงเรียนที่ไม่สามารถดำเนินการได้ จะยังคงต้องเรียนในรูปแบบออนไลน์เช่นเดิม แต่กำชับครูไม่ให้สอนต่อเนื่องจนเกินไปด้วย เพราะอาจทำให้นักเรียนประสบปัญหาออฟฟิศซินโดรมจากการนั่งเรียนนานๆ ครูอาจต้องปรับเปลี่ยนให้มีกิจกรรมระหว่างเรียนด้วย และเมื่อเด็กสามารถกลับไปเรียนได้แล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองควรดูแลเด็กเป็นพิเศษ
นพ.สราวุฒิ กล่าวอีกว่า ข้อปฏิบัติเพื่อป้องกันโควิด-19 ของพ่อแม่ ผู้ปกครองให้ยึดหลักดังนี้
1. เว้นระยะห่างทุกครั้งที่ออกนอกบ้านและจำกัดการเดินทางเท่าที่จำเป็น และไม่ไปในที่มีคนหนาแน่น เมื่อกลับถึงบ้านควรอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
2. สวมหน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นเฉพาะเวลากินอาหาร และไม่กินอาหารร่วมกัน หากจำเป็นต้องดูแลเด็กกินอาหารผู้ปกครองควรแยกหรือเหลื่อมเวลากินอาหาร
3. หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ
4, ผู้ปกครองควรทำงานที่บ้าน และงดการเยี่ยมจากบุคคลนอกบ้านในทุกกรณีและประเมินความเสี่ยงตนเองผ่าน “ไทยเซฟไทย” ทุกวัน










