สั่งย้ายแล้ว ‘ครู’ ใช้เข็มกลัดทิ่มปากเด็กยกชั้นเรียน อ้างหาคายหมากฝรั่งไม่เป็นที่

สั่งย้ายแล้ว ‘ครู’ ใช้เข็มกลัดทิ่มปากเด็กยกชั้นเรียน อ้างหาคายหมากฝรั่งไม่เป็นที่

จากกรณีผู้ปกครองนักเรียน ชั้น ป.2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ เนื่องจากลูกและเพื่อนในห้องเรียนรวม 36 คน ถูกครู ใช้เข็มกลัดทิ่มปาก ยกชั้นเรียน 36 คน เนื่องจากมีคนกินหมากฝรั่งและคายทิ้งไม่เป็นที่

นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยในวันนี้ (26 ม.ค. 67) โดยสรุประบุว่า ทางโรงเรียนได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวในช่วงเวลา 17.00 น. ของวันที่ 25 ม.ค. 67 และได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงโดยทันที เบื้องต้นพบว่าเหตุการณ์นั้นมีมูลความจริง จึงได้เร่งดำเนินการติดต่อประสานงานกับทางผู้ปกครองของนักเรียนระดับชั้นดังกล่าว เพื่อสร้างความเข้าใจ ขอโทษผู้ปกครอง และจะดำเนินการเยียวยาต่อไปตามลำดับ

พร้อมกันนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สมุทรปราการ เขต 1 ได้มีคำสั่งย้ายครูคนดังกล่าวไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่แล้ว และจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อไป โดยการสอบสวนจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขอให้ผู้ปกครองไม่ต้องกังวล

ทั้งนี้ ต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดอย่างอื่นประกอบด้วย เช่น อาการบาดเจ็บของนักเรียนและอื่นๆ หากตรวจสอบแล้วพบว่า ครูมีเจตนาไม่เหมาะสม ก็จะต้องมีการลงโทษทางวินัยตามขั้นตอน แต่หากไม่ได้มีเจตนาไม่ดี เพียงแต่กระทำการไม่เหมาะสม ก็ต้องให้ความรู้ ต้องมีการชี้แนะ ให้โอกาส หากยังไม่ปรับพฤติกรรม ก็ต้องบริหารจัดการตามสมควร

นอกจากนี้ ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. ได้แจ้งนักจิตวิทยาโรงเรียนประจำเขตพื้นที่ฯ ร่วมกับครูประจำชั้น เข้าไปพูดคุยกับนักเรียน ประเมินสภาพจิตใจ สร้างขวัญและกำลังใจให้นักเรียน โดยมอบหมายครูประจำชั้น ทำการติดตาม เฝ้าระวังพฤติกรรมของนักเรียนอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง และรายงานความคืบหน้าของพฤติกรรมนักเรียน แจ้งต่อ สพฐ. เป็นระยะ พร้อมทั้งได้ประชุมคณะครูเพื่อทบทวนการลงโทษนักเรียน การควบคุมความประพฤติของนักเรียน และข้อห้ามการลงโทษนักเรียน

ส่วนการจัดการเรียนการสอน ให้ทางโรงเรียนจัดกิจกรรมอย่างหลากหลายเสริมสร้างทักษะชีวิตนักเรียน และกำชับให้โรงเรียนดำเนินการตามมาตรการ 3 ป. ป้องกัน ปลูกฝัง ปราบปราม โดยทุกโรงเรียนต้องดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนและจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รวมถึงวางมาตรการเชิงรุกกรณีนักเรียนมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ โดยคำนึงถึงบริบทที่เหมาะสมกับมาตรการด้วย

“ต้องเน้นย้ำตรงนี้ว่าในการทำโทษนักเรียน ครูต้องเข้าใจว่า เด็กอายุ 0-18 ปี ยังเป็นผู้ใหญ่ไม่เต็มวัย ดังนั้นโอกาสที่จะทำผิดพลาดก็สามารถเกิดขึ้นได้ เป็นเรื่องที่ต้องให้เด็กเรียนรู้การอยู่ร่วมกันในสังคมโรงเรียน หากเด็กทำผิดพลาดก็ต้องประคองให้ลุกขึ้นแล้วเดินใหม่ ซึ่งครูส่วนใหญ่เข้าใจ แต่อาจยังมีบางส่วนที่ต้องเติมความรู้เข้าไปเพิ่ม ซึ่ง สพฐ.อยู่ระหว่างการปรับแนวทางการเรียนรู้ และการดูแลนักเรียนอย่างเข้มข้นมากขึ้น” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวตอนหนึ่ง

ภาพปกจาก ประชาสัมพันธ์ สพฐ.

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง