ปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor ทำเพื่อลดความผันผวน แต่พร้อมยกเลิกเสมอ ถ้าสถานการณ์คลี่คลาย

ปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor ทำเพื่อลดความผันผวน แต่พร้อมยกเลิกเสมอ ถ้าสถานการณ์คลี่คลาย

การเงิน

“สถานการณ์เราก็ตามดูอยู่ตลอด ถ้าตลาดในภูมิภาคไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี ก็ลบกันหมดแต่ไม่ได้มาก ก็ยังคงต้องคอยติดตามต่อว่ามาตรการที่ใช้ในวันนี้มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนและควรจะถอดถอนได้ตอนไหน”

นี่คือคำพูดของ ‘อัสสเดช คงสิริ’ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงสถานการณ์ตลาดหุ้นในปัจจุบัน หลังมีการประกาศใช้ประกาศมาตรการชั่วคราวปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor ลงครึ่งหนึ่งจาก 30% เป็น 15%

และ Dynamic Price Band จากเดิม 10% เป็น 5% เพื่อลดความผันผวนในการซื้อขาย จากสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลาง ซึ่งมีกำหนดใช้ถึงวันที่ 27 มิ.ย.นี้

แต่ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากผู้ลงทุนมีข้อมูลที่เพียงพอ และตลาดมีความผันผวนน้อยลง มีโอกาสที่จะปลดมาตรการชั่วคราวก่อนครบกำหนดได้

ทั้งนี้ หากย้อนไปในช่วงก่อนหน้านี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยประกาศใช้มาตรการชั่วคราว จากเหตุการณ์ Liberation Day โดยมีความแตกต่างที่เหตุการณ์ดังกล่าวมีความชัดเจนว่ามีโอกาสกระทบต่อเศรษฐกิจและบริษัทจดทะเบียนโดยตรง

แต่ในครั้งนี้สถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลาง เชื่อว่ามีข่าวออกมาต่อเนื่อง  นักลงทุนอาจ Price in ไประดับหนึ่งแล้ว ประเมินว่าอาจจะไม่รุนแรงนัก

แต่เพื่อลดความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นจึงจำเป็นต้องประกาศใช้มาตรการชั่วคราวนี้ไปก่อน แม้ว่าเหตตุการณ์นี้อาจไม่ได้ผันผวนรุนแรงเหมือนช่วงต้นเดือนเม.ย. ที่เกิด Liberation Day

ผู้จัดการ ได้พูดต่อว่า ต้องยอมรับว่า ณ วันนี้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วมาก แต่มองว่าข้อดีของประเทศไทย ไม่ว่าสิ่งไหนจะเกิดขึ้นยังเชื่อว่าธุรกิจยังเดินหน้าต่อไปได้

จึงแนะนำให้นักลงทุนวิเคราะห์ข่าวที่มีผลกระทบต่อธุรกิจหรือปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนโดยตรง ซึ่งหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีหน้าที่สื่อสารให้นักลงทุนเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง

ManassaweeWriterManassawee
นักข่าวการเงิน ที่มีความสนใจเรื่องการลงทุนและการตลาด อยากสื่อสารให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง