วันที่ 7 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้การลงทะเบียนในโครงการชิมช้อปใช้ เพื่อรับสิทธิ์ใช้จ่าย 1,000 บาท จะครบ 10 ล้านคนไปแล้ว แต่ยังมีประชาชนจำนวนมากที่ลงทะเบียนแล้วแต่ยังไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ โดยช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ธนาคารกรุงไทย ได้เปิดให้บริการเป็นพิเศษในการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่สแกนหน้าไม่ผ่าน แต่ในช่วงเช้าวันนี้ ในบางจังหวัดก็ยังมีประชาชนมาต่อแถวเพื่อยืนยันตัวตนใช้สิทธิ์ชิมช้อปใช้อยู่
ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาหน้าโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ คึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ประชาชนต่างมากดบัตรคิวและนั่งรอคิวเพื่อยืนยันตัวตน โดยชาวบ้านที่เดินทางมาต่างบอกว่า การลงทะเบียนสแกนใบหน้ายังยากสำหรับชาวบ้านทั่วไป อยากให้รัฐบาลมีมาตรการที่ดีกว่านี้เพราะสร้างความลำบากให้กับประชาชนโดยเฉพาะคนที่อยู่ตามชนบท และบางอำเภอไม่มีธนาคารกรุงไทยอยู่ในพื้นที่ต้องเดินทางมาที่ตัวจังหวัดเพื่อดำเนินการยืนยันตัวตนให้ผ่านเพื่อจะได้เงินมาจับจ่ายใช้สอยตามที่ระบุสถานที่ที่จะไป
ส่วนใหญ่ก็จะไปใช้สิทธิ์ที่ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.มหาสารคาม เพราะอยู่ใกล้พื้นที่ ซึ่งตลอดทั้งวันมีประชาชนเดินทางมายืนยันตัวตนที่ธนาคารเป็นจำนวนมาก ทุกคนต่างนั่งเฝ้ารอเจ้าหน้าที่เรียกตามคิวเพื่อดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันนี้
ส่วนที่ จ.นครราชสีมา หน้าธนาคารกรุงไทย สาขาอำเภอพิมาย มีประชาชนมาต่อแถวตากแดดรอใช้บริการบริเวณหน้าธนาคารกันจนแน่นขนัดตั้งแต่เช้าก่อนธนาคารเปิดทำการ จากการสอบถามทราบว่าเป็นการต่อแถวรอกดบัตรคิวเพื่อใช้บริการยืนยันตัวตนในโครงการชิมช้อปใช้
จากการสอบถามคุณป้าอ่อน ขอห้อยกลาง ชาวบ้านจากอำเภอชุมพวงที่เดินทางมาลงยืนยันตัวในโครงการชิมช้อปใช้เปิดเผยว่า ได้พยายามยืนยันตัวผ่านทางโทรศัพท์หลายครั้งก็ไม่ผ่านสักที วันนี้จึงได้เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนในหมู่บ้านโดยว่าจ้างรถโดยสารมาจำนวน 2 คันรถ เพื่อมายืนยันตัวตนที่ธนาคารกรุงไทยสาขาอำเภอพิมาย โดยเดินทางมาตั้งแต่เช้าตรู่ก่อนธนาคารเปิดทำการเพื่อมารอกดบัตรคิว โดยตนเองได้คิวที่ 934 ซึ่งธนาคารแจ้งว่าใช้เวลารอให้บริการประมาณ 2 ชั่วโมงเนื่องจากมีผู้มารับบริการเยอะจึงต้องออกมานั่งรอข้างธนาคารโดยที่ข้าวน้ำก็ยังไม่ได้กินเนื่องจากเกรงว่าเมื่อถึงคิวของตัวเองจะไม่ได้ยินเสียงเรียกจนผ่านหมายเลขคิวไปแล้วต้องเข้าแถวกดบัตรคิวใหม่
