ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ ยกระดับมาตรการกำกับดูแลตลาดหุ้น โดยสั่งโบรกเกอร์ส่งหลักฐานยืมหุ้นขายชอร์ตของลูกค้าภายใน 15 วัน ก่อนถูกตัดสินเป็น Naked Short โทษตั้งแต่ปรับ-สั่งหยุดเทรด
‘รองรักษ์ พนาปวุฒิกุล’ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมาย และหัวหน้ากลุ่มงานเลขานุการองค์กรและกำกับองค์กร ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยกระดับมาตรการดูแลการขายชอร์ต (Short Selling) เพิ่มเติม
เริ่มจากการตรวจสอบ Omnibus Account หรือบัญชีกองทุนรวมแบบไม่เปิดเผยชื่อผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งที่ผ่านมาเป็นช่องโหว่ในการขายชอร์ตแบบไม่มีหุ้นจริง (Naked Short
โดยสั่งโบรกเกอร์ให้ส่งหลักฐานการยืมหุ้นของลูกค้าที่ขายชอร์ตภายใน 15 วัน ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการทำ Naked Short และจะมีการดำเนินการทางวินัยกับโบรกเกอร์ต่อไป
‘แม้ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะไม่มีนิติสัมพันธ์โดยตรงกับนักลงทุน แต่สามารถกำกับดูแลผ่านบริษัทสมาชิก หากสมาชิกไม่สามารถดูแลให้ลูกค้าปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด ก็จะมีการดำเนินทางวินัยกับบริษัทสมาชิก ซึ่งโทษมีตั้งแต่ปรับ ภาคทัณฑ์ ตักเตือน ไปจนถึงระงับการซื้อขาย’
นอกจากมาตรการการตรวจสอบข้างต้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อกำกับดูแลการทำงานของตนเองเกี่ยวกับ Naked Short และโปรแกรมเทรด ซึ่งคณะกรรมการจะประกอบด้วย ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก.ล.ต. และผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก เช่น ตลาดหุ้นเกาหลี (KRX) หรือตลาดหุ้นแนสแด็ก (NASDAQ)
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทบทวนประเด็นความเท่าเทียมและความเป็นธรรมระหว่างคนที่ใช้โปรแกรมเทรดและคนที่ไม่ได้ใช้โปรแกรมเทรดอีกด้วย โดยจะเปรียบเทียบหลักเกณฑ์กับตลาดหุ้นต่างประเทศเพื่อปรับปรุงการกำกับดูแลต่อไป
ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมมือกับ ก.ล.ต.ตรวจจับ Naked Short รวมถึงส่งหนังสือเวียนเพื่อเน้นย้ำไปยังบริษัทสมาชิก บริษัทที่ไม่ใช่สมาชิก และผู้ดูแลและเก็บรักษาหลักทรัพย์ (Custodian) โดยขอความร่วมมือให้ดูแลการขายชอร์ตจะต้องมีหุ้นในการครอบครองอย่างถูกต้อง










