SIRIVANNAVARI เปิดแฟลกชิปสโตร์ใหม่ที่สยามพารากอน ผลักดันแฟชั่นไทยสู่เวทีโลก

SIRIVANNAVARI เปิดแฟลกชิปสโตร์ใหม่ที่สยามพารากอน ผลักดันแฟชั่นไทยสู่เวทีโลก

SIRIVANNAVARI เปิดแฟลกชิปสโตร์ใหม่ ณ ชั้น 1 South Zone ศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมบรรยากาศเอ็กซ์คลูซีฟ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จเป็นประธานในพิธีเปิด ท่ามกลางสื่อมวลชน แขกผู้มีเกียรติ และบรรดาแขกคนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น เบ็คกี้ รีเบคกา แพทรีเซีย อาร์มสตรอง, เจ้านาย จินเจษฎ์ วรรธนะสิน, เจ้าขุน จักรภัทร วรรธนะสิน มาร่วมงานในครั้งนี้

แบรนด์ SIRIVANNAVARI ก่อตั้งโดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี ตั้งแต่ปี 2005 ทั้งนี้แบรนด์ได้ขยายความถี่ในการปล่อยคอลเล็กชันให้สอดคล้องกับแบรนด์แฟชั่นระดับ Global จากเดิมที่ปล่อยปีละครั้งเป็นการออกหลายซีซั่นต่อปี โดยแบรนด์ SIRIVANNAVARI มีหน้าร้านในสยามพารากอนมานานกว่า 7 ปีแล้ว ก่อนจะปรับพื้นที่ให้เป็นแฟลกชิปสโตร์เพื่อรองรับการขยายไลน์สินค้าและการจัดวางคอลเล็กชันอย่างครบถ้วน

การออกแบบภายในยังคงคอนเซ็ปต์คอนเทมโพรารีที่ผสมผสานวัสดุคู่ตรงข้าม อย่างหินธรรมชาติสีครีมกับสเตนเลสสตีลสไตล์อินดัสเทรียล พร้อมผนังกระจกกราฟิกจากพื้นจรดเพดาน สร้างบรรยากาศร่วมสมัยที่สอดคล้องกับผู้บริโภครุ่นใหม่ ในแฟลกชิปสโตร์นี้ ลูกค้าจะได้พบสินค้าทุกไลน์ตั้งแต่ Ready-to-Wear, Essentials Edit ที่ใส่ได้ทุกวัน ไปจนถึงผลงาน Made-to-Order ที่เคยนำไปโชว์ในงานแฟชั่นที่มิลานและปารีส รวมถึงเครื่องหนัง ผลิตภัณฑ์แว่นตา รองเท้า ไปจนถึงคอลเล็กชัน Fine Jewelry ที่แบรนด์ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ

คอนเซ็ปต์การออกแบบเสื้อผ้าของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ต้องการสื่อสารถึงการ “เอมพาวเวอร์ริ่งวูแมน” ผสานความเฟมินินและความอ่อนโยนเข้ากับองค์ประกอบที่ให้ความเข้มแข็งและมีพลัง ตอบโจทย์ผู้หญิงยุคใหม่ที่ดำรงบทบาทผู้นำทั้งในงานและชีวิตส่วนตัว

นอกจากสายสินค้าโอต์กูตูร์และชุดพิเศษสำหรับงานใหญ่แล้ว ปัจจุบันแบรนด์ยังออกแบบเสื้อผ้าที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้บริโภคทั่วไปมากขึ้นในระดับราคาที่จับต้องได้

ในด้านการผลิตและความร่วมมือ SIRIVANNAVARI ได้เลือกผลิตสินค้าตามความเชี่ยวชาญของแต่ละประเทศ โดยได้ร่วมมือกับช่างฝีมือจากต่างชาติมากมาย เช่น สินค้าเครื่องหนังและรองเท้าบางรายการผลิตในอิตาลี ส่วนคอลเล็กชันจิวเวอรี่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของแบรนด์ ผลิตในประเทศไทยเอง เนื่องจากไทยมีข้อได้เปรียบด้านอัญมณีอยู่แล้ว ซึ่งทางแบรนด์ได้วางแผนจะขยายเป็นแฟลกชิปสโตร์จิวเวอรี่แบบสแตนด์อโลนในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า

นางรติรส จุลชาต รองประธานบริษัท ไอริส 2005 จำกัด กล่าวถึงการเติบโตของแบรนด์ในปี 2020-2021 แบรนด์เติบโตมากถึง 300% และทิศทางการเติบโตปีต่อมา ได้ผลักดันสินค้าไลน์ Ready-to-Wear, Essentials และ Fine Jewelry รวมถึงการเปิดป๊อปอัพสโตร์ทั้งในประเทศที่เซ็นทรัลชิดลมและคิงพาวเวอร์ รางน้ำ เพื่อเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น

ส่วนในต่างประเทศก็ได้เปิดป๊อปอัพสโตร์เช่นเดียวกัน เช่น ที่มิลานและปารีส เพื่อขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้ายุโรป นอกจากนี้แบรนด์ยังมีพาร์ตเนอร์ด้านการตลาดต่างประเทศและการทำงานร่วมกับบุคคลมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เพื่อขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ยังเป็นคนไทยมากกว่า 70% แต่สัดส่วนลูกค้าต่างชาติกำลังเพิ่มขึ้น เช่น ยุโรป จีน และตะวันออกกลาง (กำลังเติบโตอย่างเห็นได้ชัด)

แบรนด์ยังคงยึดมั่นในพันธกิจส่งเสริมชุมชนและอนุรักษ์ผ้าไทย ควบคู่ไปกับการผลักดันแบรนด์ไทยให้ก้าวสู่เวทีโลก ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ และการขับเคลื่อนผ่านสมาคมแฟชั่นไทยที่พระองค์ท่านได้ริเริ่มขึ้น เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและความยั่งยืนให้แก่ช่างฝีมือท้องถิ่นและผู้ประกอบการไทยให้เติบโตไปพร้อมๆ กัน

แท็กที่เกี่ยวข้อง
PatWriterPat
พิธีกรและนักข่าว สายอสังหาฯ สายการบิน รถยนต์ และไลฟ์สไตล์ อยู่ในวงการนี้มากว่า 10 ปี
ปัจจุบันเป็นพิธีกรรายการ TOMORROW สัมภาษณ์ผู้บริหารจากหลากหลายธุรกิจ ติดต่อได้ที่ [email protected]


Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
SIRIVANNAVARI เปิดแฟลกชิปสโตร์ใหม่ที่สยามพารากอน ผลักดันแฟชั่นไทยสู่เวทีโลก