‘พิชัย นริพทะพันธุ์’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาของ World Bank ซึ่งได้พูดในหัวข้อ “SME และสตาร์ทอัพ – พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย”
โดยกล่าวว่าในปีนี้ 2568 มองว่า GDP ไทยควรจะต้องโตได้อย่างน้อย 3% และในปีหน้า 2569 ต้องได้มากกว่านี้อีกซึ่งเหตุผลที่ทำให้คิดแบบนี้
มาจากหากเรามองดูตัวเลขในปี 2567 ที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ทะลุ 1.1 ล้านล้านบาท และการส่งออกที่ทำสถิติสูงสุดถึง 10 ล้านล้านบาท หรือเติบโต 5.4%
โดยเฉพาะอุตสาหกรรมใหม่อย่าง PCB (Printed Circuit Board) ที่กำลังทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตของโลก ซึ่งในปีที่แล้วเรามีการลงทุนมากกว่า 6,000-7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 236,000 ล้านบาท
.
[ เร่งลงนาม FTA ]
และเพื่อผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจไทย รัฐบาลได้มีคำสังให้กระทรวงพาณิชย์ เร่งรัดเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) หลายฉบับ เพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันให้สินค้าไทย
โดยเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้มีการลงนาม FTA กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป หรือเอฟตา (EFTA) ซึ่งประกอบด้วยประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์
ส่วนการเจรจา FTA ระหว่างไทย-ภูฏาน ก็กำลังใกล้บรรลุผลในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ไทยยังอยู่ระหว่างการเจรจา FTA กับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ และยุโรป ซึ่งตั้งใจที่จะบรรลุข้อตกลงให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้
อีกหนึ่งสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์พยายามทำ ก็คือการผลักดันและสนับสนุนธุรกิจ SMEs และ Startups และทำให้การผูกขาดในธุรกิจนั้นหายไป ซึ่งปัจจุบันก็กำลังให้ความสำคัญกับมาตรการต่างๆ เหล่านี้มากขึ้น
[ 5 นโยบายผลักดันธุรกิจตัวเล็ก ]
ในส่วนของการพัฒนา SMEs และ Startups ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้มีนโยบายในการขับเคลื่อนผ่าน 5 เรื่อง ได้แก่
1.ทลายทุนผูกขาด ปลดล็อกให้คนตัวเล็กส่งออกข้าวได้ มีการปรับลดข้อจำกัดด้านสต๊อกและค่าธรรมเนียม เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยแข่งขันได้มากขึ้น
2.ใช้ FTA เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพิ่มแต้มต่อในการค้าและการลงทุน
3.จัดระเบียบสินค้านำเข้าและธุรกิจนอมินี เข้มการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับสินค้าต่างประเทศที่ไม่ได้มาตรฐาน และป้องกันธุรกิจแอบแฝงของคนต่างด้าว
4.เสริมศักยภาพ SMEs ด้วยเงินทุนและนวัตกรรม ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีศักยภาพขยายตลาดและยกระดับคุณภาพสินค้า มีแนวทางที่จะร่วมมือกับกระทรวง อว. เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ
5.สร้าง Thailand Brand สร้างแบรนด์ “Thailand Brand by…” เพื่อเป็นการการันตีสินค้าของ SMEs ที่ยังไม่มีแบรนด์ของตัวเองให้สามารถส่งออกได้ พร้อมรับรองคุณภาพสินค้าไทยในตลาดโลก
อย่างไรก็ตามในเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์ต้องการจะทำไม่ว่าจะเป็นในส่วนของนโยบายต่างๆ ในการผลักดัน SMEs และการทำงานรวมกันกับองค์กรอื่นๆ ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล ‘แพทองธาร ชินวัตร’ เชื่อว่าจะสามารถทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตต่อไปได้










