10 แบงก์ไทยไตรมาส 1 ปี 2566 ทำกำไรไปแล้ว 6 หมื่นล้านบาท โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่า ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น
ไตรมาสแรกของปีนี้ (ไตรมาส 1 ปี 2566) หุ้นในกลุ่มธนาคารมีกำไรรวมกันกว่า 6 หมื่นล้านบาท (60,276 ล้านบาท) โดยธนาคารที่ทำกำไรได้สูงสุด คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ที่ 10,995 ล้านบาท
แต่ธนาคารที่กำไรเติบโตมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ที่เติบโต 42% จาก 7,118 ล้านบาท มาอยู๋ที่ 10,129 ล้านบาท
ส่วนธนาคารที่กำไรหดตัวเมื่อเทียบ YoY คือ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT ที่กำไรลดลง 22% จาก 1,061 ล้านบาท มาอยู่ที่ 830 ล้านบาท

‘ภาสกร หวังวิวัฒน์เจริญ’ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) บอกว่า รายได้หลักของธนาคารมาจาก 3 ส่วนด้วยกัน หากอิงจากรายได้ปี 2565 จะได้สัดส่วนดังนี้
1. ดอกเบี้ยรับสุทธิ (Net Interest Income: NII) ประมาณ 70%
2. ค่าธรรมเนียม (Fee Income) ประมาณ 20%
3. รายได้ที่ไม่ใช่การดำเนินการหลัก เช่น มูลค่าเงินลงทุน การขายทรัพย์สิน ปันผลที่ได้รับจากการลงทุน ฯลฯ ประมาณ 10%
ขณะที่ภาพรวมไตรมาส 1 ที่ผ่านมา รายได้ของกลุ่มธนาคารออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ประมาณ 8% แม้ว่าจะเติบโตกว่า 45% เมื่อเทียบไตรมาสก่อน (QoQ) และเติบโต 14% YoY
แน่นอนว่า รายได้ดอกเบี้ยเติบโต 17% เพราะได้อานิสงส์จากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นที่เริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 2565 จนถึงไตรมาสปัจจุบัน
สำหรับค่าใช้จ่าย พบว่า ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สูญ ลดลง QoQ แต่เพิ่มขึ้น YoY จากที่บางธนาคารตั้งสำรองไว้เพื่อรองรับกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า
หากพิจารณา 8 ธนาคารที่ บล.เอเซีย พลัส จัดทำบทวิเคราะห์ครอบคลุม (ไม่รวม CIMBT และบริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG) พบว่า ทำกำไรสุทธิไปได้แล้วประมาณ 28% จากคาดการณ์ทั้งปีที่ 2.1 แสนล้านบาท
สอดคล้องกับคาดการณ์โมเมนตัมในช่วงที่เหลือของปีนี้ว่ากำไรของกลุ่มธนาคารจะเติบโตต่อเนื่อง โดยได้ปัจจัยบวกจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
สำหรับการลงทุน ฝ่ายวิจัยแนะนำแบงก์ที่ค่อนข้างเข้มแข็ง ทั้งในแง่อัตราการตั้งสำรองที่สูง และอัตราหนี้สินต่อดอกเบี้ยที่ไม่เกิดรายได้ (NPL) ที่ต่ำ
โดย 2 ตัวแรก ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ราคาเหมาะสม 20.30 บาทต่อหุ้น และ BBL ราคาเหมาะสม 174.00 บาทต่อหุ้น










