ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น TOP วันนี้ (5 ก.ย. 2566) ปิดทรงตัวที่ 48.75 บาทต่อหุ้น ระหว่างปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดที่ 48.50 บาทต่อหุ้น ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.51% สวนทางกับกลุ่มพลังงานที่ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า TOP แจ้งเหตุน้ำมันดิบรั่วที่ชลบุรีเมื่อวันที่ 3 ก.ย. เรามองผลกระทบต่อการดำเนินงานจำกัด
เมื่อวันที่ 3 ก.ย. น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังเกิดเหตุบริษัทได้ควบคุมสถานการณ์บริเวณที่เกิดเหตุโดยทันที
จากเหตุการณ์นี้ เราคาดว่าไม่มีผลกระทบการดำเนินงาน โดยผู้บริหารคาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อกำลังการผลิตอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งหากนำกรณี บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) ที่น้ำมันรั่ว บริษัทฯ มีการรับรู้ค่าใช้จ่ายราว 1.8 พันล้านบาท
หากคิดค่าใช้จ่ายที่ใกล้เคียงกัน จะคิดเป็นผลกระทบ -0.70 บาทต่อหุ้น TOP ทั้งนี้ บริษัทมีประกันซึ่งจะช่วยลดผลกระทบดังกล่าวได้
แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของ TOP แต่เรามองผลกระทบต่อการดำเนินงานมีจำกัด เรายังคงแนะนำ ‘ซื้อ’ โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 61 บาท
ขณะที่ TOP แจ้งความคืบหน้าต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วันนี้ว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการขจัดคราบน้ำมันซึ่งประเมินว่ามีปริมาณประมาณ 60,000 ลิตร และมีจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือไทยออยล์ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 16 กิโลเมตร
โดยบริษัทฯ ได้เร่งรัดดำเนินการต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบของเหตุการณ์ ดังนี้
- ดำเนินการขจัดคราบน้ำมันและวางทุ่นล้อมไม่ให้คราบน้ำมันเคลื่อนเข้าสู่ชายฝั่ง โดยได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ในการสนับสนุนกำลังพล เรือ อากาศยาน อุปกรณ์ และสารเคมีขจัดคราบน้ำมัน ซึ่งได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล
- สำรวจและวิเคราะห์หาสาเหตุของการรั่วไหลในเบื้องต้น ร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิค
- ติดตามทิศทางการไหลของกระแสน้ำ และคาดคะเนทิศทางการเคลื่อนตัวของคราบน้ำมันเพื่อเตรียมมาตรการป้องกันกรณีคราบน้ำมันถูกพัดเข้าชายฝั่ง
- เตรียมความพร้อมกำลังพลจากกองทัพเรือเพื่อขจัดคราบน้ำมันบนชายฝั่งและการเข้าช่วยเหลือ หากเกิดเหตุพบคราบน้ำมันบนชายฝั่งหรือเกิดผลกระทบต่อชุมชน
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 4 ก.ย. 2566 ทีมผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า กราบน้ำมันจะมีทิศทางการเคลื่อนตัวขนานกับเกาะสีชัง อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจถ่าสุดเมื่อเช้าวันที่ 5 ก.ย. 2566 ไม่พบกลุ่มคราบน้ำมันขนาดใหญ่ พบเพียงแค่แผ่นฟิล์มบางๆ บนผิวน้ำทะเลเท่านั้น ซึ่งบริษัทฯ จะยังคงทำการสำรวจเพื่อให้มั่นใจต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทมีความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย รายละเอียดดังนี้
1. ประกันภัยความเสี่ยงภัยทุกชนิด (All Risk Policy) ซึ่งประกอบด้วยประกันภัยคุ้มครองทรัพย์สินและการหยุดชะงักของธุรกิจ (Property Damage/Business Interruption)
– ทุนประกันสำหรับส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดประมาณ 1,377 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีความรับผิดส่วนแรกของผู้เอาประกันจำนวน 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับประกันภัยคุ้มครองทรัพย์สิน และ 60 วัน สำหรับประกันภัยการหยุดชะงักของธุรกิจ
2. ประกันภัยการขนส่งสินค้าทางทะเล (Marine Cargo Policy)
– ทุนประกันสูงสุด 310 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อ 1 เที่ยวของการขนส่งน้ำมันดิบ โดยมีความรับผิดส่วนแรกของผู้เอาประกันคิดเป็น 0.5% ของมูลค่าน้ำมันดิบที่ขนส่ง
3. ประกันภัยความรับผิดต่อสิ่งแวดล้อม (Pollution Legal Liability Policy)
– ทุนประกัน 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีความรับผิดส่วนแรกของผู้เอาประกันจำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อหนึ่งเหตุการณ์
4. ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก (Third Party Liability)
– ทุนประกัน 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีความรับผิดส่วนแรกของผู้เอาประกันจำนวน 10,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหนึ่งเหตุการณ์
ซึ่งในขณะนี้ บริษัทประกันภัยอยู่ในขั้นตอนของการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อประเมินและพิจารณาค่าสินไหมทดแทนสำหรับแต่ละกรมธรรม์ฯ ข้างต้น ทั้งนี้ จะเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
บริษัทฯ จะยังคงเร่งรัดการดำเนินการแก้ไขและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งดำเนินการกลั่นด้วยความปลอดภัยอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อลูกค้า ทั้งนี้บริษัทฯ จะรายงานความคืบหน้าของสถานการณ์ตามความเหมาะสมต่อไป










