ผู้ว่าอุดรฯ และนายกเล็กลุยตรวจสอบระบบไฟ เสาไฟฟ้า เสาไฟส่องสว่าง เทศบาลนครอุดรฯ หลังเกิดเหตุไฟดูดนักเรียนช่วงฝนตก พร้อมเปลี่ยนจากไฟฟ้าเป็นโซลาเซลล์แทน ป้องกันไฟดูด เร่งดำเนินการติดตั้งทุกเสาเกือบ 3,000 ต้นในเขตเทศบาลเมืองอุดรธานี
จากเหตุการณ์ฝนตกหนักจนน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลนครอุดรธานี และเกิดเหตุไฟฟ้ารั่วจนดูดเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บ ตามที่สื่อได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วย นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี, นายธีระภัทร์ ผิวสวัสธ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุดรธานี, นายธนดร พุทธรักษ์ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี, นายศุภชัย โนนคู่เขตโขง ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดอุดรธานี 2, เจ้าหน้าที่ส่วนราชการ, พนักงานของ กฟภ. และเทศบาลนครอุดรธานี ลงพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบระบบไฟ เสาไฟฟ้า เสาไฟส่องสว่าง พร้อมติดป้ายเตือน ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี
นายสยาม เปิดเผยว่า นโยบายของกระทรวงมหาดไทย เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของประชาชน ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการตรวจสอบปรับปรุงเสาไฟส่องสว่างให้เกิดความปลอดภัยกับพี่น้องประชาชน โดยเปลี่ยนเป็นไฟกระแสตรง โซลาเซลล์ สำหรับเสาไฟส่องสว่างพื้นที่เทศบาลนครอุดรธานี มีอยู่กว่า 3,000 เสา มีการประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงให้ดำเนินการเช่นกัน จากนั้นจะขยายให้ทั่วทั้งจังหวัด
ด้าน นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี กล่าวว่า จากปัญหาไฟฟ้าดูดนักเรียน เทศบาลนครอุดรธานีได้เร่งเข้ามาแก้ไขจัดการปัญหา โดยวันนี้ได้ปรับเสาไฟส่องสว่างจากเดิมให้กระแสไฟฟ้า เป็นการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ 2 ต้น โดยจุดแรกที่เกิดเหตุและจุดถัดไปอีก 1 ต้น จากนี้ เทศบาลนครอุดรธานีจะมีการจัดซื้อจัดจ้างซื้อไฟโซล่าเซลล์ติดบริเวณจุดเสี่ยงทั้งหมด คือ บริเวณถนนศรีชมชื่น ถนนศรีสุข ซึ่งเป็นด้านหน้าและด้านหลังของโรงเรียน และถนนโพธิ์ศรี ซึ่งมีน้ำท่วมเป็นประจำ
เริ่มต้นจะใช้งบประมาณเทศบาลของปีนี้ จำนวน 500,000 บาท ในการจัดซื้อจัดจ้างโคมไฟโซล่าเซลล์เป็นการเร่งด่วน คาดว่าจะได้ประมาณ 40 กว่าโคมไฟ โดยระบบไฟจะมีทั้งแผงโซล่าเซลล์ โคมไฟ และแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 60 วัตต์ สามารถให้แสงสว่างได้ประมาณอย่างต่ำ 12 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน สำหรับผู้บาดเจ็บ ขณะนี้ทางเทศบาลมีการเยียวยาเป็นการเบื้องต้นไปแล้ว ส่วนระยะยาวขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับกองสวัสดิการว่าจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้างขอยืนยันจะเยียวยาเต็มที่










