สธ. เผย วัคซีนไฟเซอร์อีก 6 แสนโดสไม่ได้หายไปไหนเก็บไว้ฉีดให้ประชาชนในพื้นที่สีแดงเข้มและชาวต่างชาติที่พักอาศัยในไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
วันที่ 9 ก.ย. 2564 นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค สรุปการฉีดวัคซีนในไทยว่า ฉีดไป 38.1 ล้านโดส แบ่งเป็นเข็ม 1 จำนวน 26.2 ล้านราย เข็มที่ 2 จำนวน 11.2 ล้านราย
ขณะที่วัคซีนไฟเซอร์ ฉีดไปแล้วกว่า 9 แสนโดส เหลืออีก 6 แสนโดส โดยจำนวนที่เหลือจะนำไปฉีดเข็ม 2 ให้กลุ่มเสี่ยง ในพื้นที่สีแดงเข้ม และอีกส่วนให้ชาวต่างชาติที่มีที่อยู่อาศัยถูกต้องตามกฎหมายในไทย หากจัดอันดับการฉีดวัคซีน ในระดับภูมิภาคอาเซียน ข้อมูลล่าสุด วันที่ 8 ก.ย. 2564 ที่ผ่านมา พบว่า ไทยฉีดมากสุดเป็นอับที่ 2 รองจากอินโดนีเซีย ที่ฉีดไปแล้วกว่า 108.9 ล้านโดส
ส่วนการจัดอันดับทั่วโลก ประเทศที่ฉีดมากที่สุด อันดับ 1 จีน ฉีด 2,113 ล้านโดส รองลงมาคือ อินเดีย ฉีด 707 ล้านโดส และอันดับ 3 สหรัฐอเมริกา 376 ล้านโดส
ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ในไทย ปัจจุบันแม้ว่ายอดผู้ป่วยจะกลับมาสูงขึ้น แต่ขออย่ากังวล เพราะความน่ากลัวไม่ได้อยู่ที่จำนวนผู้ติดเชื้ออย่างเดียว ยังมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 220 ราย จะเป็นกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป กับกลุ่มมีโรคเรื้อรัง มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 93 และมีหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งยังไม่รับวัคซีน
นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า การลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 และผู้เสียชีวิตให้ลดลง ผู้สูงอายุและผู้ที่อยู่ในกลุ่มโรคเรื้อรังควรเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ได้เร็วที่สุด
ประเทศไทยตอนนี้ยังไม่พบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์มิว แต่จะต้องจับตาดูจากกลุ่มประชาชนที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศเป็นสำคัญ ส่วนตัวเลขติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นในวันนี้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ยังจับตาอยู่อย่างใกล้ชิด แต่ยอมรับจะมีผลต่อการพิจารณาปรับใช้มาตรการป้องกันโควิดของ ศบค.ในช่วงต่อไปได้










