วันที่ 13 ก.ย. 2564 นพ.ทศพร เสรีรักษ์ พร้อมกลุ่มนักศึกษาแพทย์พยาบาลเพื่อมวลชน เดินทางเข้ายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือและขอให้รัฐบาลแคนาดามอบวัคซีนโควิด-19 กับประชาชนชาวไทยมาฉีดให้แก่นักเรียน นักศึกษา เพื่อเสริมสร้างและกระชับสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่สถานทูตลงมารับหนังสือ
นพ.ทศพร ระบุว่า การจัดหาวัคซีนของรัฐบาลไทยเพื่อกระจายให้กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และเยาวชน เป็นไปอย่างล่าช้า ทำให้เด็กไม่สามารถกลับไปเรียนในสถานศึกษาได้ ต้องเรียนออนไลน์อย่างเดียว ซึ่งบางครอบครัวก็มีข้อกำหนดและได้รับผลกระทบมากมาย บางคนอุปกรณ์ที่ใช้ในการศึกษาไม่พร้อม จึงอยากให้เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนในเด็กกลุ่มนี้ นอกจากการได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วนแล้ว เด็กนักเรียน นักศึกษา และเยาวชนทุกคน ควรมีสิทธิในการเลือกชนิดของวัคซีนเองได้ด้วย จึงเดินทางมายื่นหนังสือถึงสถานทูตแคนาดาประจำประเทศไทย โดยส่งหนังสือผ่านสถานทูตไปยัง ฯพณฯ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแห่งสหพันธรัฐแคนาดา เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการบริจาควัคซีน ให้ยืมวัคซีน หรือความช่วยเหลืออื่นๆ

“วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในประเทศไทยมีปัญหาความขัดข้องล่าช้าในกระบวนการผลิต ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ และประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสถิติผู้ติดเชื้อรายใหม่ และเสียชีวิตเป็นอันดับต้นๆ ของโลก นอกจากนี้ประเทศไทยมีนักเรียนในโรงเรียนจำนวน 7,330,830 คน และมีนักศึกษาจำนวน 1,522,999 คน ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนนักเรียนและนักศึกษาเหล่านี้ไม่สามารถไปโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยได้ ต้องเรียนออนไลน์ที่บ้าน ซึ่งจะมีปัญหาต่อการพัฒนาของเด็กๆ ทั้งในด้านความรู้ ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม” นพ.ทศพร กล่าว
พร้อมได้กล่าวชื่นชมสหพันธรัฐแคนาดา ที่สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สามารถทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพด้านสาธารณสุข และมองเห็นถึงความสำคัญของประชาชนเป็นอันดับแรก

จากนั้นได้เดินทางไปยังสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โดยส่งหนังสือผ่านสถานทูตไปยัง ฯพณฯ นายโจเซฟ อาร์. ไบเดน จูเนียร์. ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา เพื่อขอบคุณที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้บริจาควัคซีนไฟเซอร์จำนวน 1.5 ล้านโดส ให้แก่ประเทศไทยเพื่อนำไปฉีดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ผู้สูงอายุ เด็กในกลุ่มเสี่ยง และชาวต่างชาติในไทย พร้อมขอความอนุเคราะห์ให้สหรัฐอเมริกาบริจาควัคซีนเพิ่มเติมเพื่อนำไปฉีดให้กลุ่มนักเรียน นักศึกษาด้วย











