อาณาจักร Berkshire Hathaway ของ ‘วอเรน บัฟเฟตต์’ รายงานผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2566 สูงถึง 350,000 ล้านบาท โตกว่า 6.6% จากปีก่อนหน้า พร้อมเงินสดในมืออีกกว่า 5,200,000 ล้านบาท
‘เบิร์กเชียร์แฮทาเวย์’ (Berkshire Hathaway) อาณาจักรสำหรับการลงทุนของ ‘วอเรน บัฟเฟตต์’ รายงานผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2566 แตะ 10,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 350,000 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตจากปีก่อนหน้า 6.6%
พร้อมด้วยเงินสดในมือสูงถึง 150,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5,200,000 ล้านบาท เทียบกับในช่วงไตรมาสก่อนหน้าที่ถือไว้ 130,616 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4,420,000 ล้านบาท
โดยกำไรจากธุรกิจในเครือของ Berkshire Hathaway มาจากทั้งธุรกิจประกัน รถไฟ สินค้าอุปโภคบริโภคอย่าง Apple, American Express, Coca-cola และอื่นๆ อีกมายมาย
ซึ่งในไตรมาสดังกล่าวนี้เอง Berkshire ยังรายงานผลกำไรสุทธิแตะ 35,910 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,257,000 ล้านบาท) เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ขาดทุน 43,620 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,527,000 ล้านบาท) เติบโตขึ้นจากรายได้การขายประกันและการลงทุนที่ก้าวกระโดดขึ้น
ทั้งนี้ Berkshire ยังรายงานผลกำไรจากการลงทุนที่ยังไม่ได้รับรู้ (Unrealized Profit) สูงถึง 26,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหลักๆ มาจากกำไรของการลงทุนในหุ้น ‘Apple’ ที่มีการปรับตัวขึ้นนำตลาดในช่วงไตรมาส 2 นี้
โดยหุ้น ‘Apple’ มีการปรับตัวขึ้นมาถึง 18% ในช่วงไตรมาส 2 ทำให้เม็ดเงินการลงทุนของ Berkshire ใน ‘Apple’ ทะยานแตะ 177,600 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6,040,000 ล้านบาท
ในขณะที่ Berkshire มีการทยอยขายหุ้นน้ำมันอย่าง ‘Chevron’ ออกมา 1,400 ล้านดอลลาร์ ราว 47,000 ล้านบาท ทำให้เหลือถือครองหุ้นดังกล่าวอยู่ 19,400 ล้านดอลลาร์ ราว 679,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ อัตราการซื้อหุ้นคืน (Shares Repurchase) ของบริษัทก็มีการชะลอตัวลง โดยในไตรมาสนี้บริษัทใช้เงินเพียง 1,400 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 47,000 ล้านบาทเพื่อซื้อหุ้นคืน แต่หากคิดจากต้นปี บริษัทก็มีการซื้อหุ้นคืนไปแล้วถึง 5,800 ล้านดอลลาร์ ประมาณ 197,000 ล้านบาท
โดยหุ้น Class A ของ Berkshire Hathaway (BRK) ทำจุดสูงสุดใหม่ไปเมื่อวันพฤหัสบดี 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ณ ราคา 541,000 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากจุดสูงสุดเดิมเมื่อ 22 มี.ค. 2564 ที่ราคา 539,180 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ที่มา: www.cnbc.com/2023/08/05/berkshire-hathaway-brk-earnings-q2-2023.html
