ยุคสมัยที่คนเมืองใช้ชีวิตเร่งรีบ เครื่องซักผ้าที่บ้านเริ่มไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป เพราะต้องใช้เวลาในการซัก บางเครื่องใช้มาหลายปีก็เริ่มเกิดปัญหาเสียบ่อย และที่สำคัญเครื่องที่บ้านส่วนใหญ่มีขนาดไม่พอรับมือกับผ้านวม ผ้าห่ม หรือของชิ้นใหญ่ ทำให้ “ร้านซักด่วน” หรือร้านสะดวกซัก (Laundromat) กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนรุ่นใหม่โดยไม่รู้ตัว
โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานและนักศึกษาในหอพักหรือคอนโด ที่มองว่าการจ่ายเงินไม่กี่สิบบาทเพื่อซักและอบผ้าให้เสร็จภายในไม่กี่สิบนาที คุ้มกว่าการลงทุนซื้อเครื่องซักผ้าเอง ทำให้วันนี้ตลาดร้านซักด่วนพัฒนาไปสู่รูปแบบที่ครบวงจรมากขึ้น มีแอร์ มีที่นั่งรอ มีเครื่องซักอบคุณภาพสูง บางแห่งถึงขั้นมี Wi-Fi และระบบชำระเงินอัตโนมัติ กลายเป็นธุรกิจที่ “มีสแตนดาร์ด” เหมือนร้านสะดวกซื้อ เพราะไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร คนก็ยังต้องซักผ้าอยู่ดี
ภาพรวมอุตสาหกรรมร้านสะดวกซักในประเทศไทยมีมูลค่าตลาดได้ขยายตัวจากประมาณ 3,000 ล้านบาทในปี 2563 มาอยู่ที่ 10,000 ล้านบาทในปี 2565 และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจนมีมูลค่าสูงถึง 13,500 ล้านบาทในปี 2567
ปัจจุบัน ธุรกิจร้านซักผ้าในไทยประกอบด้วย 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ, ร้านซักรีดทั่วไป และร้านสะดวกซัก (Laundromat) ซึ่งร้านสะดวกซักที่ใช้เครื่องจักรอุตสาหกรรมมีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นและรวดเร็วที่สุด เนื่องจากสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในด้านความสะดวก รวดเร็ว และมีคุณภาพสูงกว่าการซักผ้าที่บ้าน
หนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่อย่าง บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการร้านสะดวกซักครบวงจรภายใต้แบรนด์ WashXpress ที่ใช้โมเดล “Owner-Operator” บริหารร้านด้วยตนเองเพื่อควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ และกำลังเดินหน้าขยายอีกกว่า 160 สาขาในสองปีข้างหน้า
ล่าสุด WashXpress กำลังก้าวอีกขั้นสู่ตลาดทุน ด้วยการเสนอขายหุ้น IPO ที่ราคา 7.50 บาทต่อหุ้น เพื่อระดมทุนขยายสาขาและยกระดับบริการให้ครบวงจรยิ่งขึ้น นับเป็นอีกก้าวสำคัญของแบรนด์ที่เริ่มต้นจากการ “ซักผ้าให้สะอาด สะดวก สบาย”
‘ชิษณุพันธ์ ตั้งเฉลิมกุล’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH กล่าวว่า การเติบโตของร้านซักด่วนได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยหลักๆ อยู่ 3 เรื่องคือ
-
-
-
- การขยายตัวของสังคมเมือง (Urbanization) ที่ทำให้รูปแบบการอยู่อาศัยเปลี่ยนไปสู่คอนโดมิเนียมหรืออพาร์ตเมนต์ที่มีพื้นที่จำกัด โดยเฉพาะการเติบโตของเมืองในภูมิภาค และโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ดึงดูดแรงงานจำนวนมาก
- การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ซึ่งส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น และสร้างความต้องการบริการซักผ้าปริมาณมากจากธุรกิจโรงแรมและบริการที่เกี่ยวข้อง
- แนวโน้มการอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ที่ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวเดี่ยว (Nuclear Family) และมีไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ จึงต้องการบริการที่ช่วยประหยัดเวลาและอำนวยความสะดวกในการจัดการงานบ้าน
-
-
ด้าน ‘กวิน กลองกระโทก’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH กล่าวว่า สำหรับ WASH วางเป้าหมายต่อยอดธุรกิจหลังเข้าตลาดไว้หลักๆ ใน 3 แกนหลัก ได้แก่
-
-
-
- การขยายสาขาเชิงรุก (Branch Expansion) โดยตั้งเป้าหมายเปิดสาขาใหม่ที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของจำนวน 80 สาขาในปี 2568 และมีแผนขยายสาขาอีกไม่น้อยกว่า 160 สาขาในปี 2569 – 2570 เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด
- การพัฒนาและขยายบริการครบวงจร (Full Service) ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายขึ้น พร้อมขยายบริการที่มีอยู่แล้ว เช่น บริการซักอบพับ บริการรับรีด และบริการรับจ้างซักอบรีดในปริมาณมากสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจ (B2B) ให้ครอบคลุมสาขามากขึ้น รวมถึงมีแผนพัฒนาบริการใหม่ๆ เช่น บริการรับ-ส่งผ้าถึงมือลูกค้า (Delivery Service)
- การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี (Technology Driven) ผ่านแอปพลิเคชัน WashXpress สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า พร้อมนำข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานมาวิเคราะห์เพื่อต่อยอดทางธุรกิจ และมีแผนจะนำรูปแบบสมาชิก (Subscription Model) มาใช้ในการให้บริการ
- การขยายสาขาเชิงรุก (Branch Expansion) โดยตั้งเป้าหมายเปิดสาขาใหม่ที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของจำนวน 80 สาขาในปี 2568 และมีแผนขยายสาขาอีกไม่น้อยกว่า 160 สาขาในปี 2569 – 2570 เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด
-
-
“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของบริษัทฯ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวทางการเงินและรองรับการขยายธุรกิจในระยะต่อไป โดยเฉพาะแผนเปิดสาขาใหม่ที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของไม่น้อยกว่า 160 สาขาในปี 2569–2570 ควบคู่กับการปรับปรุงและยกระดับร้านเดิมให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น รวมถึงเสริมสภาพคล่องในการดำเนินงานในอนาคต การระดมทุนครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น และเดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็นผู้ให้บริการร้านสะดวกซักครบวงจรที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน”











