
ชุดพญาเสือเข้า พล.ร.7 ตรวจสอบจุดยิงแมวดาว ผู้บังคับบัญชาพร้อมส่งตัว “สิบเอก” ดำเนินคดีหากพบความผิด ด้าน ทบ.ชี้แจงเป็นการดักซุ่มยิง หลังแมวดาวเข้ามากินไก่ชนที่เลี้ยงไว้ในค่าย ไม่ได้ล่า
หลังกลุ่ม Watch Dog Thailand โพสต์ภาพซากหนังแมวดาวถูกขึงกับต้นไม้ และ ภาพชายยืนถืองูโชว์ มาโพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊กของกลุ่ม พร้อมระบุข้อความว่า WDT รับแจ้งจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม พบเจอคนยิงแมวดาว ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และแมวดาวตัวนี้ ยังตั้งท้องอีกด้วย พร้อมรูปหลักฐานที่ส่งอวดกันในไลน์กลุ่มเฉพาะ เมื่อคืนวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา สถานที่ยิง บริเวณป่าในค่าย แต่จุดที่ขึงตามในรูป เป็นห้องว่างในป่าแถวหลังโรงรถภายในค่าย โดยทางกลุ่มเรียกร้องให้มีการตรวจนายสิบและเอาผิดกับทหารนายนี้
ภาพที่ถูกเผยแพร่สร้างความสลดใจและเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ตำหนิบุคคลในภาพ ที่ถูกระบุว่าเป็นทหารยศสิบเอก สังกัดค่ายแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งค่ายดังกล่าวอยู่ติดป่าของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย โดยพื้นที่ป่าแม้อยู่ใกล้ตัวเมืองแต่มีสภาพค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ เพราะชาวบ้านไม่กล้าเข้าไปหาของป่าหรือล่าสัตว์ เนื่องจากพื้นที่ป่าติดค่ายทหาร จึงมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

ล่าสุด เช้าวันนี้ (10 ก.ค.62) นายอิสระ ศิริไสยาสน์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 พร้อมเจ้าหน้าชุดพญาเสือ เดินทางไปที่กองพลทหารราบที่ 7 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เข้าพูดคุยสอบถามข้อมูลกับนายทหารระดับผู้บังคับบัญชา
เบื้องต้นทราบว่า สิบเอกคนดังกล่าวทำหน้าที่พลขับ ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดให้ความร่วมมือด้านข้อมูลเป็นอย่างดี ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ชุดพญาเสือจะเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่า จุดที่ถูกระบุว่ามีการยิงแมวดาวและล่างูสิง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ขณะที่ ล่าสุดศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก ได้ออกแถลงเรื่องดังกล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้มีการสอบสวน ล่าแมวดาวท้อง ถลกหนัง ขึงพืดโชว์ในกลุ่มไลน์ ผลการสอบสวน ทราบตัวผู้กระทำผิด เหตุในค่ายมี การเพาะเลี้ยงสัตว์เป็นศูนย์การเรียนรู้ แล้วพบว่ามีสัตว์หายไป จึงทำการดักจับพบเป็นงูสิงดง

ส่วนเรื่องแมวดาว มีทหารเลี้ยงไก่ชน แล้วไก่หายอีกเช่นกันจึงดักซุ่มยิง เมื่อคืนวันที่ 6 -7 ก.ค. ถลกหนัง วันที่ 8 ก.ค. นำมาโพสต์ในไลน์กลุ่มไก่ชนต่อมา วันที่ 9 ก.ค. ภาพเลยถูกนำไปแชร์ต่อ ขณะที่ผู้บังคับบัญชาของทหารคนดังกล่าวได้มีการเรียกตัวทหารคนก่อเหตุไปสอบสวนเรียบร้อยทั้งสองเรื่อง พร้อมจะให้ความร่วมมือส่งตัวทหารคนดังกล่าวให้ เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแน่นอน









