ในปัจจุบันมี ‘เว็บไซต์’ เกิดขึ้นมากมายและเกิดใหม่ในทุก ๆ วัน ซึ่งแต่ละเว็บไซต์ต่างถูกใช้ในจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป เช่น เหล่าบล็อกเกอร์อาจจะใช้เพื่อเขียนเรื่องราวหรือรีวิวสินค้า หรือบริษัทธุรกิจยักษ์ใหญ่ใช้เพื่อขายสินค้า หรือที่เรียกว่า การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce) ข้อดีของเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ทำให้จำนวนเว็บไซต์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
You will find more infographics at Statista
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1991 เว็บไซต์แรกของโลกที่ชื่อว่า http://info.cern.ch/ ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่สร้างโดย ทิม เบอร์เนอร์ส-ลี (Tim Berners-Lee)
ขณะทำงานอยู่ที่องค์การวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป (European Organi zation for Nuclear Research; CERN) ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งนับว่าเป็นการเกิดขึ้นครั้งแรกของระบบ ‘เวิลด์ไวด์เว็บ’ (WorldWideWeb)
เมื่อสิ้นสุดปี 1992 พบว่ามีเว็บไซต์เกิดขึ้นในโลกอินเตอร์เน็ตทั้งสิ้น 10 เว็บไซต์แต่หลังจาก ‘CERN’ อนุญาตให้มีการนำระบบเวิลด์ไวด์เว็บไปใช้ได้โดยไม่คิดค่าลิขสิทธิ์ในปีค.ศ. 1993 ส่งผลให้อินเตอร์เน็ตค่อยๆเริ่มเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้
ในปี 1994 มีเว็บไซต์เกิดขึ้นมากถึง 3,000 เว็บไซต์หนึ่งในนั้นคือเว็บ Yahoo แต่เดิมมีชื่อว่า ‘Jerry and David’s Guide to the World Wide Web’ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ในรูปแบบ ‘เว็บไดเรคทอรี่’ (Web Directory) หรือเป็นระบบที่รวบรวมลิงค์ของเว็บไซต์ต่างๆเข้าไว้ด้วยกันอย่างเป็นหมวดหมู่ด้าน Google เปิดตัวในขณะที่มีเว็บไซต์เกิดขึ้นมากกว่าสองล้านเว็บไซต์แล้ว
จากการสำรวจของ Statista เผยว่าปัจจุบันมีเว็บไซต์ทั้งหมด 1.71 พันล้านเว็บไซต์ถึงแม้จะมีปริมาณน้อยกว่าจำนวนเว็บไซต์ในปี 2017 ที่มีถึง 1.76 พันล้านเว็บไซต์แต่ตัวเลขการเกิดเว็บไซต์ก็กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ด้านจำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตตามข้อมูลเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2019 มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมากถึง 4.1 พันล้านคนทั่วโลกทวีปเอเชียยังคงเป็นทวีปที่มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมากที่สุดในโลก ตามมาด้วยทวีปยุโรป (16.8%) ทวีปแอฟริกา (11%) และแคริบเบียน(10.4%) ตามลำดับ
https://www.statista.com/chart/19058/how-many-websites-are-there/
https://www.websitehostingrating.com/internet-statistics-facts/









