what-its-like-to-become-an-impact-arena-owner

ดูคอนเสิร์ตอิมแพ็คบ่อยๆ ขอลองเป็นเจ้าของหุ้น IMPACT ดูบ้าง

การเงิน

ใครชอบดูคอน (เสิร์ต) ไหนยกมือขึ้น? ลองคิดเล่นๆ ว่า ถ้าเราสามารถทำเงินจากสิ่งที่เราชอบเสียเงินให้บ่อยๆ บ้าง จะน่าสนใจแค่ไหนกัน

วันนี้เราอยากพาเหล่าคนที่ชอบดูคอนฯ ไปรู้จักกับหุ้น IMPACT เจ้าของอิมแพ็ค เมืองทองธานี สถานที่จัดคอนเสิร์ตที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี รู้หรือไม่ว่า เราสามารถร่วมเป็นเจ้าของและรับส่วนแบ่งกำไรจากอิมแพ็คได้

หุ้น IMPACT หรือชื่อเต็มๆ ‘ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็คโกรท’ เป็นกองรีท (REIT) หรือกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์

ถือสิทธิ์การเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ของอิมแพ็ค ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์การจัดแสดงอิมแพ็ค อารีน่า, ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี, ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค ฟอรั่ม และอาคารประชุมอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์

ซึ่งสถานที่เหล่านี้ มักจะถูกใช้ในการจัดคอนเสิร์ตและงานแสดงต่างๆ จากผู้จัดงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยที่ผ่านมา มีศิลปินชื่อดังระดับโลกหลายคนที่เคยมาจัดคอนเสิร์ตที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น ‘บิลลี่ ไอริช’ (Billie Eilish) ‘แจ็คสัน หวัง’ (Jackson Wang)

หรือแม้แต่ศิลปินในตำนานอย่าง ‘ไมเคิล แจ็คสัน’ (Michael Jackson) เจ้าของฉายา King of Pop ก็เคยมาใช้พื้นที่ดังกล่าวในการจัดคอนเสิร์ตเช่นกัน

นอกจากนี้ ศิลปิน K-Pop หลายวง ก็เคยมาใช้พื้นที่ของ IMPACT ในการจัดคอนเสิร์ตอย่างมากมายนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น TVXQ!, Super Junior, Girls’ Generation, 2PM, GOT7, NCT ฯลฯ

และในปีนี้ (2566) ศูนย์ประชุมของ IMPACT ก็ยังมีดีมานด์เข้ามาต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตและงานแสดง เช่น KCON, Motor Show, Money Expo และอื่นๆ อีกมากมาย

ในมุมของการลงทุน นักวิเคราะห์ประเมินว่า IMPACT กำลังฟื้นตัวกลับไปเทียบเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 โดยได้ปัจจัยหนุนจากการกลับมาเปิดเมือง-เปิดประเทศ ทำให้รายได้จากผู้จัดทั้งในไทยและต่างประเทศ มีแนวโน้มเติบโตในช่วง 2-3 ปีต่อจากนี้

นอกจากนี้ IMPACT ยังได้ปัจจัยหนุนจากการปรับขึ้นของค่าเช่าที่โดยเฉลี่ย จากระดับ 32.10 บาทต่อตารางเมตรในปีก่อนหน้า (2565) สู่ระดับ 88.10 บาทต่อตารางเมตรในปีนี้ รวมถึงรถไฟฟ้าสีชมพู (ส่วนต่อขยาย) ที่กำลังจะเปิดใช้งาน

อีกหนึ่งข้อดีที่ทำให้นักวิเคราะห์ชอบ IMPACT คือ การเป็นเจ้าของทรัพย์สิน 100% หรือเป็นกองรีทแบบ Freehold แตกต่างกับ Leasehold ที่ต้องหาสินทรัพย์ใหม่ๆ เข้ามาเติม ไม่อย่างนั้นสินทรัพย์เดิมที่มีอยู่ก็จะทยอยหมดสัญญาถือครองไปเรื่อยๆ

ขณะที่กำไรปีนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าจะเติบโตสูงถึง 420% จากปีก่อนที่ 159 ล้านบาท มาอยู่ที่ 828 ล้านบาท

สำหรับเทรนด์การเติบโต นักวิเคราะห์คาดว่ารายได้รวมระหว่างปี 2566-2568 จะอยู่ที่ 1,658 ล้านบาท 2,154 ล้านบาท และ 2,222 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนกำไรปกติ คาดว่าจะอยู่ที่ 828 ล้านบาท 1,154 ล้านบาท และ 1,204 ล้านบาท

ขณะที่เงินปันผลระหว่างปี 2566-2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 0.53 0.74 และ 0.77 บาทต่อหน่วยลงทุน ตามลำดับ คิดเป็นอัตราเงินปันผล (Dividend Yield) ราว 3.9% 5.44% และ 5.67%

หากเราเป็นคนที่ใช้บริการพื้นที่ของ IMPACT อยู่แล้ว ไอเดียการเข้าไปลงทุน ก็ดูจะเป็นโอกาสดีในการสร้างรายได้กลับมา

ไม่แน่ว่า เงินปันผลที่เราได้วันนี้ อาจเป็นหนึ่งในเงินที่เราเอาไปจ่ายค่าบัตรคอนเสิร์ตในครั้งต่อๆ ไปก็ได้

ที่มา:

  • www.kasikornsecurities.com/th/research/company-analysis/eH4sRU และบทวิเคราะห์ฉบับเต็มหุ้น IMPACT ของบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
  • www.set.or.th/th/market/product/stock/quote/IMPACT/price
TrinTWriterTrinT
Gradatim Ferociter

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง