หลังจากที่ในวันนี้ (20 ก.ค. 2565) Zipmex ประกาศระงับการเพิกถอนเงินบาท และคริปโตเคอร์เรนซี่
ล่าสุด ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิปเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงชี้แจงถึงประกาศดังกล่าวว่า บริษัทมีการประสบปัญหาคือผลิตภัณฑ์ ZipUp ของบริษัทฯ นำเงินไปฝากไว้ที่ Zipmex Global ประเทศสิงคโปร์ แต่คู่ค้า Babel Finance และ Celcius เจอปัญหาสภาพคล่อง (โดยจะชี้แจงจำนวนทีหลัง)
“ปัญหาสภาพคล่องทำให้สินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะบิตคอยน์ อีเธอเรียม USDT USDC มีปัญหา แต่ยืนยันว่าสินทรัพย์ดิจิทัลและเงินบาทที่อยู่ใน Trade Wallet ยังไม่มีปัญหา ยังฝากถอนได้เหมือนเดิม ยกเว้นผลิตภัณฑ์ ZipUp เท่านั้น”
ดร.เอกลาภ ระบุว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ในช่วง 2 ทุ่มเป็นต้นไป แพลตฟอร์มจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถใช้บริการฝากถอนระหว่าง Z Wallet และ Trade Wallet กล่าวคือ ยังสามารถฝากถอนเงินบาทได้ตามปกติ
“เรื่องสำคัญคือเงินของลูกค้าต้องมาก่อน ต้องเอาเงินของลูกค้าคืนมาให้ได้”
ทั้งนี้ ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาใหญ่ บริษัทฯ จะดำเนินการอย่างเต็มที่ เบื้องต้นได้ชี้แจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว
“เพื่อความสบายใจของลูกค้า Zipmex จะมาแถลงการณ์ลูกค้า โดยกราบขอโทษลูกค้าที่ทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความมั่นใจ โดยย้ำว่าสินทรัพย์ดิจิทัลและเงินของลูกค้าจะต้องมาก่อน” ดร.เอกลาภ กล่าว
สำหรับการดำเนินคดีความกับคู่ค้า Zipmex Global, Babel Finance และ Celcius นั้น Zipmex Thailand พร้อมดำเนินคดีความแบบกลุ่มร่วมกับลูกค้า (ออกค่าใช้จ่ายให้) เพื่อทวงคืนสินทรัพย์ดิจิทัลให้แก่ลูกค้า
นอกจากนี้ ‘ดร.เอกลาภ’ ยังระบุถึงดีลการซื้อกิจการระหว่าง Zipmex กับบริษัทใหญ่ในไทยว่า แม้บริษัทฯ จะเผชิญปัญหากับคู่ค้า แต่ยืนยันไม่กระทบดีลซื้อขายกิจการแน่นอน อีกทั้ง Zipmex จะนำเงินส่วนที่ได้จากการขายกิจการมาช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มที่
