
กระทรวงการต่างประเทศ เผยผลชี้แจงต่อ “11 ผู้แทนคณะทูต” ที่ไปร่วมสังเกตการณ์คดีของนายธนาธร ได้บอกไปว่า “ผิดหวัง” เข้าข่ายแทรกแซงกิจการภายในของไทยและละเมิดหลักปฏิบัติและพันธกรณีทางการทูต พร้อมขอให้สถานเอกอัครราชทูตดังกล่าวป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ
น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการสอบถามจากสื่อมวลชนเรื่องการเชิญเอกอัครราชทูตของประเทศที่ส่งผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์การรับทราบข้อกล่าวหาของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่สถานีตำรวจปทุมวัน มาพบหารือที่กระทรวงการต่างประเทศนั้น
เมื่อวันที่ 10-11 เม.ย. 2562 กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญเอกอัครราชทูตของประเทศที่ส่งผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์การรับทราบข้อกล่าวหาของนายธนาธร ที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2562 เข้าพบรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ (รับผิดชอบภารกิจทวิภาคี) ที่กระทรวงการต่างประเทศ
ในการพบหารือกับเอกอัครราชทูตหรืออุปทูตรักษาการสถานเอกอัครราชทูตต่าง ๆ ดังกล่าว รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้แสดงความผิดหวังและห่วงกังวลต่อการปรากฏตัวของผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศ ที่สถานีตำรวจปทุมวันในช่วงที่นายธนาธรไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยเฉพาะการทำให้เกิดภาพที่ถูกตีความได้ว่า เป็นการไปให้กำลังใจแก่นายธนาธรและเป็นการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในบริบททางการเมืองไทยในปัจจุบัน การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่เกินเลยภารกิจทางการทูต เข้าข่ายแทรกแซงกิจการภายในของไทยและละเมิดหลักปฏิบัติและพันธกรณีทางการทูต ภายใต้อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ค.ศ. 1961 มาตรา 41 ดังนั้น จึงขอให้สถานเอกอัครราชทูตดำเนินการเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
เอกอัครราชทูตและอุปทูตที่มาพบประกอบด้วย ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร เยอรมนี แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ฟินแลนด์ เบลเยียม และ สหภาพยุโรป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กต. เชิญ 12 คณะทูตที่ไปร่วมสังเกตการณ์คดีธนาธรเข้าหารือวันนี้
มาตรา 116 ทำให้ “ธนาธร” อาจต้องขึ้นศาลทหาร ?
“ศรีวราห์” เผย “ธนาธร” สามารถยื่นต่อศาลทหารขอโอนคดีมาที่ศาลพลเรือนได้









