ประเด็นคือ – กรมควบคุมโรค แนะนำประชาชน อย่าหลงเชื่อโฆษณาในสื่อออนไลน์ที่ระบุว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกในการเลิกสูบบุหรี่ เพราะขณะนี้ยังไม่มีรายงานวิจัยทางการแพทย์มายืนยัน และที่สำคัญพบว่า เด็กและเยาวชน ซึ่งไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน เมื่อหันมาสูบ ก็จะเสพติดบุหรี่ชนิดนี้ ซึ่งมีสารก่อมะเร็งในระดับที่สูง
นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปัจจุบันมีการสูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างแพร่หลายในกลุ่มวัยรุ่นไทย เนื่องจากรูปลักษณ์ ค่านิยมและองค์ประกอบที่ดึงดูดใจให้วัยรุ่นหันมาสูบฯ บางส่วนให้เหตุผลว่า ตัดสินใจหาซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาสูบ เพราะเชื่อคำโฆษณาเชิญชวนตามสื่อออนไลน์ว่า เป็นช่องทางหนึ่งในการช่วยเลิกบุหรี่ได้
แต่ปัจจุบัน ยังไม่มีหลักฐานหรือข้อสรุปทางการแพทย์ที่ชี้ชัดว่า บุหรี่ประเภทนี้ช่วยให้คนเลิกสูบบุหรี่ และยังพบว่า เด็กและเยาวชนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลย ตัดสินใจซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาทดลองสูบ และเสพติดในที่สุด
ทั้งที่บุหรี่ไฟฟ้า มีสารพิษโดยเฉพาะสารเสพติดอย่างนิโคติน และสารกลุ่มโลหะหนักต่างๆ เช่น โครเมี่ยม นิเคิล ฟอร์มาลดีไฮด์ หรือยาดองศพ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในระดับที่สูง หรือมากกว่าบุหรี่ทั่วไป ที่สำคัญประเทศไทยห้ามนำเข้าหรือขายบุหรี่ไฟฟ้า
ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการเลิกบุหรี่ สามารถโทรศัพท์ปรึกษาศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ หมายเลข 1600 และเข้ารับบริการได้ที่ คลินิกให้บริการเลิกบุหรี่ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข หรือสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักควบคุมการบริโภคยาสูบ 02-580 9237 หรือสายด่วน 1422
