
ชาวสงขลาวัย 65 ปี เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า สืบประวัติพบเลี้นงสุนัขไว้ในบ้านกว่า 80 ตัว ชี้เป็นเสียชีวิตเป็นรายที่ 17 ของปีนี้้
วันที่ 17 ต.ค. 2561 นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในปี 2561 ล่าสุดกรมควบคุมโรคได้รับรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าเพิ่มอีก 1 ราย อยู่ที่จังหวัดสงขลา เป็นเพศชาย อายุ 65 ปี ก่อนเสียชีวิตเข้ารับการรักษาด้วยอาการแน่นหน้าอก กลืนลำบาก
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตมีประวัติเลี้ยงสุนัขที่บ้านประมาณ 80 ตัว ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ถูกสุนัขไม่ทราบสายพันธุ์กัดบริเวณข้อมือด้านซ้าย และไม่มีประวัติได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ามาก่อน เมื่อได้รับรายงานผู้เสียชีวิตได้ส่งทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุข ลงพื้นที่เพื่อทำการสอบสวนควบคุมโรคและค้นหากลุ่มเสี่ยงเพื่อรับวัคซีนโดยเร็ว
สำหรับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า ปี 2561 พบมีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าแล้วจำนวน 17 คน ใน 14 จังหวัดคือ จังหวัดบุรีรัมย์ ระยอง และสงขลา จังหวัดละ 2 คน, จังหวัดสุรินทร์ ตรัง นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง หนองคาย ยโสธร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ตาก และสุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 คน

นพ.อัษฎางค์ แนะนำว่า หากถูกสุนัขและแมวกัด-ข่วน หรือเลียบาดแผล แม้เพียงเล็กน้อยก็อย่าชะล่าใจให้รีบล้างแผลด้วยน้ำและสบู่ทันทีหลายๆ ครั้ง นานประมาณ 10 นาที และใส่ยาเบตาดีน เพื่อลดการติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า จากนั้นรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อวินิจฉัยและรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า หากฉีดวัคซีนแล้วควรไปตามแพทย์นัดทุกครั้ง นอกจากนี้ให้สังเกตอาการผิดปกติของสุนัขที่กัดหรือข่วนเรา หากตายใน 10 วันหรือไม่ ภายหลังสุนัขตัวนั้นไปกัด ข่วนคน ต้องรีบไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และขอให้ยึดหลัก 5 ย. เพื่อลดความเสี่ยงการรับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า คือ อย่าแหย่ให้สัตว์โมโหเพราะอาจโดนข่วนหรือกัดได้, อย่าเหยียบบริเวณลำตัว ขา หรือหางของสัตว์, อย่าแยกสัตว์ที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า, อย่าหยิบจานข้าวหรืออาหารขณะสัตว์กำลังกิน และอย่ายุ่งกับสัตว์ที่ไม่รู้จักคุ้นเคย









