กรมควบคุมโรคเผยยอดผู้ป่วย “ไข้ปวดข้อยุงลาย” เกือบ 500 คน ใต้มากสุด ยันคุมได้

กรมควบคุมโรคเผยยอดผู้ป่วย “ไข้ปวดข้อยุงลาย” เกือบ 500 คน ใต้มากสุด ยันคุมได้

ในประเทศ

กรมควบคุมโรค ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ภาคใต้ ดำเนินการป้องกันและควบคุมโรคไข้ปวดข้อยุงลาย แนะประชาชนยึดหลัก “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค”

วันนี้ (20 มกราคม 2562) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวเกี่ยวกับโรคไข้ปวดข้อยุงลายในพื้นที่จังหวัดสงขลา นั้น กรมควบคุมโรค ได้มอบหมายให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ติดตามสถานการณ์โรคไข้ปวดข้อยุงลายในจังหวัดสงขลาและในพื้นที่ภาคใต้อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง

โดยดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น และภาคประชาสังคม เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคไข้ปวดข้อยุงลาย นอกจากนี้ จังหวัดสงขลาได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) เพื่อระดมความร่วมมือและดำเนินการอย่างเข้มข้นในพื้นที่ และจากความร่วมมือของหน่วยงานทุกภาคส่วนในครั้งนี้ ทำให้ในขณะนี้สามารถควบคุมโรคจนสถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เป็นอันตราย และมีความปลอดภัยสำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่

โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือ โรคชิคุนกุนยา เป็นโรคติดเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา ที่มีทั้งยุงลายสวนและยุงลายบ้านเป็นพาหะนำโรค ซึ่งพบได้ในทุกกลุ่มอายุ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงอย่างฉับพลัน มีผื่นแดงขึ้นตามร่างกาย และอาจมีอาการคันร่วมด้วย พบตาแดง แต่ไม่ค่อยพบจุดเลือดออกในตาขาว ส่วนใหญ่ในเด็กอาการไม่รุนแรงเท่าผู้ใหญ่ โดยอาการเด่นชัดในผู้ใหญ่คือ ปวดข้อ อาจพบข้ออักเสบได้ ซึ่งเป็นที่ข้อเล็กๆ เช่น ข้อมือ ข้อเท้า อาการปวดข้อ จะพบได้หลายๆ ข้อ เปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยๆ อาการจะรุนแรงมากจนบางครั้งขยับข้อไม่ได้ และอาการจะหายภายใน 1 – 2 สัปดาห์ บางรายอาจมีอาการปวดข้อนานเป็นเดือนหรือเป็นปีได้ ไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงถึงขั้นช็อก

สำหรับสถานการณ์โรคไข้ปวดข้อยุงลายในปี 2562 นี้ (ตั้งแต่วันที่ 1-15 ม.ค. 62) พบผู้ป่วย 447 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต โดยผู้ป่วยเกือบทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 444 ราย (ในจังหวัดสงขลา 260 ราย) ส่วนอีก 3 ราย อยู่ในกรุงเทพมหานคร

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า หากประชาชนมีอาการดังกล่าวข้างต้น ขอให้รีบไปพบแพทย์ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคภายใน 2 สัปดาห์ สำหรับวิธีป้องกันตนเองจากโรคดังกล่าว คือ ไม่ให้ถูกยุงกัด โดยสวมเสื้อผ้าแขนยาวขายาวให้มิดชิด ทายากันยุง นอนในมุ้ง เป็นต้น ที่สำคัญคือ ร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ซึ่งเป็นพาหะนำโรค

โดยยึดหลัก “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” คือ

1. เก็บบ้านให้สะอาด ไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง

2. เก็บขยะ เศษภาชนะ ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง

และ 3. เก็บน้ำ ภาชนะใส่น้ำ ต้องปิดฝาให้มิดชิด ป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่

ทั้งนี้ จะสามารถป้องกันได้ 3 โรคในคราวเดียวกัน คือ

1. โรคไข้เลือดออก

2. โรคติดเชื้อไวรัสซิกา

3. โรคไข้ปวดข้อยุงลาย

ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง