
กรมชลประทาน พร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง รับสถานการณ์พายุปาบึก ถล่มภาคใต้ คาดการณ์ฝนตกเฉลี่ยสะสมสูงสุด 300 มิลลิเมตร
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน คาดการณ์สถานการณ์พายุปาบึกเคลื่อนตัวเข้าพื้นที่ภาคใต้ของไทยระหว่างวันที่ 3-5 ม.ค. ว่า จะทำให้มีปริมาณฝนตกสะสมสูงสุด 300 มิลลิเมตร โดยกรมชลฯ ได้เฝ้าระวังพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ในช่วงวันที่ 3-4 ม.ค. 2562 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ช่วงวันที่ 4-5 ม.ค. 2562 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
นายทองเปลว ระบุว่า สั่งให้ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 15 เป็นผู้แทนประจำศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจชั่วคราวในสภาวะวิกฤติ ในการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ซึ่งมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง อยู่ในความดูแลของกรมชลประทาน 2 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน และอ่างเก็บน้ำปราณบุรี ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณเก็บกักอยู่ระหว่าง ร้อยละ 86 และร้อยละ 90
“ได้สั่งการให้พร่องน้ำเพื่อให้มีที่ว่างรองรับปริมาณน้ำแล้ว สำหรับอีก 2 แห่งอยู่ในความดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย คือ อ่างเก็บน้ำรัชประภา และอ่างเก็บน้ำบางลาง มีปริมาณน้ำร้อยละ 83 และ ร้อยละ74 ยังมีที่ว่างเพียงพอที่จะรองรับปริมาณน้ำได้”
ทั้งนี้ การไฟฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ได้ประเมินสถานการณ์และวางแผนบริหารจัดการเช่นเดียวกับกรมชลประทาน ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จำนวน 39 แห่ง โดยมีอ่างเก็บน้ำที่เหลืออีก 31 แห่งมีน้ำเฉลี่ยร้อยละ 75-80 ให้พิจารณาพร่องน้ำให้อยู่ในเกณฑ์เก็บกัก และเหมาะสมกับปริมาณน้ำที่จะไหลลงอ่างฯ ส่วนสถานการณ์น้ำในลำน้ำสายหลักต่างๆ ได้มีการพร่องน้ำมาก่อนหน้าแล้ว ปัจจุบันปริมาณน้ำในลำน้ำมีประมาณร้อยละ 30 ต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 2-3 เมตร









