
ประเด็นคือ – เกิดเหตุรถยนต์กระบะบรรทุกแรงงานเมียนม่าไปทำงาน เสียหลักพลิกคว่ำบนถนนบายพาสภูเก็ต ดับ 1 และบาดเจ็บอีก 8 ราย
วันนี้ (15 พ.ย. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะบรรทุกคนงานประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ทำให้มีผู้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง
โดยเหตุเกิดที่บริเวณถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (บายพาส) ฝั่งขาเข้าเมืองภูเก็ต ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้ง ร.ต.อ.รณภูมิ เพิ่มพูน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต ได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต รถกู้ชีพ จำนวน 5 คัน

บริเวณจุดเกิดเหตุถนนบายพาสฝั่งขาเข้าเมืองภูเก็ตสภาพการจราจรค่อนข้างติดขัด ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้เร่งเข้าไปทำการช่วยเหลือทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้บาดเจ็บรวม 8 ราย ก่อนนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ตรวจสอบบริเวณใต้ท้องรถที่จอดอยู่หน้าร้านอะลูมิเนียม พบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายอ้วน อายุ 32 ปี สัญชาติเมียนมา สภาพนอนคว่ำหน้าสวมชุดคนงานก่อสร้างห่างออกไปประมาณ 20 เมตร ริมถนนช่องซ้ายสุดพบรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด สีดำหมายเลขทะเบียน กบ 5469 ภูเก็ต ซึ่งเป็นรถที่ประสบอุบัติเหตุ สภาพพลิกตะแคงข้างได้รับความเสียหาย บริเวณพื้นถนนโดยรอบพบหมวก รองเท้า ปิ่นโตใส่อาหาร และอื่นๆ เกลื่อนกระจัดกระจายทั่วบริเวณ

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า รถคันที่ประสบอุบัติเหตุมี นายเนติธร จันทร์ทอง อายุ 21 ปี เป็นผู้ขับขี่ และได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้แล้ว สอบถามนายจรัส จิตรสมร อายุ 53 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นคนคุมงานก่อสร้างและนั่งมากับรถคันเกิดเหตุด้วย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุรถคันดังกล่าวซึ่งมี นายเนติธร เป็นคนขับ ได้รับคนงานก่อสร้างมาจากแคมป์ในพื้นที่ อ.ถลาง มีคนงานนั่งมาภายในตัวรถรวมทั้งตนและคนขับ จำนวน 4 คน และนั่งกระบะท้ายรถ จำนวน 5 คน เพื่อไปทำงานในที่พื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ขณะที่รถขับอยู่ในเลนช่องซ้ายสุด ได้มีรถขับตามมาข้างหลังพยายามส่งสัญญาณไฟเพื่อขอแซง และนายเนติธร ได้หักหลบลงด้านซ้ายให้เพื่อให้รถคันดังกล่าวแซงขึ้นไป ประกอบกับถนนช่วงนั้นเป็นทางลงเนินเล็กน้อยทำให้รถเสียหลัก และพลิกคว่ำจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนฯ ได้มีการบันทึกภาพและเก็บรายละเอียดต่างๆ และจะได้ทำการสอบสวนคนขับรถเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป









