
ประเด็นคือ – กษัตริย์จิกมีพร้อมราชินีและพระโอรสเสด็จพระราชดำเนินกลับ ราชอาณาจักรภูฏาน หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2560 เวลา 12.37 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และสมเด็จพระราชินีเจทซุน เพมา วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน พร้อมพระโอรส เสด็จพระราชดำเนิน ไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เพื่อประทับเครื่องบินของสายการบินภูฏาน ดุ๊ค แอร์ เที่ยวบินที่ KB151 เสด็จพระราชดำเนินกลับราชอาณาจักรภูฏาน หลังทรงร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ เฝ้าทูลละอองทุลีพระบาท ส่งเสด็จ
ขณะที่ เฟซบุ๊ก “Danai Chanchaochai” ของ ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย นักเขียน นักจัดรายการวิทยุ นักบรรยายชื่อดัง ได้โพสต์ภาพและข้อความ หลังเข้าเฝ้า โดยระบุว่า
“นับเป็นบุญและเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และสมเด็จพระราชินีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน พระราชทานพระวโรกาสให้เข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ เกือบ 2 ชั่วโมง โดยน้อมเกล้าฯ ถวายหนังสือภาษาอังกฤษชุด King Bhumibol Adulyadej of Thailand (คิง ภูมิพลอดุลยเดช ออฟ ไทยแลนด์) หนังสือตามรอยพระยุคลบาท รัชกาลที่ 9 และหนังสือเล่มอื่นที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษซึ่งทั้งสองพระองค์สนพระทัยมาก ทรงเปิดดูหนังสืออย่างละเอียด และรับสั่งถามด้วยความแปลกพระทัยว่า พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงมีภาพวาดฝีพระหัตถ์จำนวนมาก และภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ได้มีโอกาสทอดพระเนตรเป็นครั้งแรกจากหนังสือเล่มนี้
สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีรับสั่งว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเป็น “ธรรมราชา” ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก เช่นเดียวกับพระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อ 2300 ปีก่อน ทรงเป็นต้นแบบการเป็นพระมหากษัตริย์ให้กับพระองค์เอง ทุกครั้งที่ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี รับสั่งถึง ในหลวง รัชกาลที่ 9 พระสุรเสียงจะสั่นเครือ และน้ำพระเนตรคลอ ทรงติดเข็มถวายอาลัยเลข ๙ ไทยบนฉลองพระองค์ชุดประจำชาติสีดำ เป็นความปลาบปลื้มและเป็นพระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้”











