
ขนส่งและตำรวจท่องเที่ยวสั่งพักใบอนุญาตขับรถ-ปรับรายละ 1,000 บาท 3 คนขับแท็กซี่ หลังมีคลิปหนุ่มปลอมเป็นชาวต่างชาติ แฉแท็กซี่โก่งราคานักท่องเที่ยว
วันที่ 16 ต.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีหนุ่มชาวไทยจัดทำคลิปวิดีโอ “ปลอมเป็นชาวต่างชาติ แฉแท็กซี่ไทย” ก่อนมีการเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ เพื่อแฉพฤติกรรมการให้บริการลูกค้าชาวต่างชาติ ที่ส่วนใหญ่ไม่กดมิเตอร์ และคิดราคาเหมาที่สูงเกินจริง จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์นั้น นายทรงศักดิ์ ปัญญาธรักษ์ เจ้าของคลิปแฉแท็กซี่ไทย เผยว่า ตนเป็น Youtuber ที่มักจะทำคลิปสะท้อนเรื่องวินัยจราจร การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของคนไทย พฤติกรรมของคนไทย และสะท้อนสังคมไทยผ่านคลิปวิดีโอ

จนกระทั่งล่าสุด ทำคลิปวิดีโอ “ปลอมเป็นชาวต่างชาติ แฉแท็กซี่ไทย” ทำขึ้นเพื่อสะท้อนพฤติกรรมการให้บริการแท็กซี่ไทยกับชาวต่างชาติ โดยเริ่มต้นทดสอบการให้บริการแท็กซี่ไทยจำนวน 3 คัน เริ่มต้นเส้นทางจากชิดลม–เยาวราช ราคา 200 บาท ต่อมา จากเยาวราช–สนามหลวง ราคา 250 บาท และสุดท้ายจากสนามหลวง–ชิดลม ราคา 300 บาท ซึ่งเส้นทางนี้เมื่อลองตรวจสอบราคาจาก Grab ราคาเพียง 140 บาท เท่านั้น แท็กซี่จะเพิ่มราคาเหมาคันจากราคาปกติประมาณ 2-3 เท่า เมื่อถามถึงสาเหตุที่ไม่กดมิเตอร์ คนขับรถแท็กซี่จะอ้างว่า “ไม่มีมิเตอร์ บ้างก็บอกว่ากดมิเตอร์ไม่ได้ บ้างก็บอกว่าตกลงราคากันไว้แล้ว” การให้บริการแท็กซี่ลักษณะนี้เป็นการเอารัดเอาเปรียบชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในไทย จนทำให้เกิดภาพสะท้อนแท็กซี่ไทยออกไปในทางลบมากขึ้น ซึ่งพฤติกรรมการให้บริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินี้ เกิดขึ้นบ่อยจนชิน

ทั้งนี้ มีบริการลักษณะแนะนำการท่องเที่ยวไทยใกล้กรุงเทพฯ เช่น ตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น ซึ่งเป็นโปรแกรมทัวร์ 1 วัน หรือ 2 วัน พร้อมเสนอราคาหลักพันบาทขึ้นไป บางสถานที่หลายพันบาท จึงมองว่าสูงเกินไป ประกอบกับมองว่าแท็กซี่สามารถเป็นทัวร์นำเที่ยวได้ด้วยหรือไม่ และแท็กซี่ผันมาเป็นรถรับจ้างไม่ประจำทางได้ด้วยหรือไม่ เป็นสิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้ามาตรวจสอบ
ต่อมา กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวได้ติดตามตัวผู้ขับรถแท็กซี่ที่ปรากฏในคลิปจำนวน 3 ราย มาชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งจากการสอบข้อเท็จจริงผู้ขับรถทั้ง 3 ราย ยอมรับว่าได้กระทำผิดจริง ตามที่ปรากฏเป็นภาพในคลิป จึงได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับรายละ 1,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาต ผู้ขับรถทั้ง 3 ราย เป็นเวลา 1 เดือน พร้อมเข้ารับการอบรมในเรื่องกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและบันทึกประวัติการกระทำผิดเพื่อติดตามพฤติกรรมต่อไป









