พ่อค้าแม่ค้าเปิดล้ง รับซื้อลองกองลับแล ช่อโต คุณภาพดี จ.อุตรดิตถ์ วันละกว่า 50 ตัน หลังเวียดนามรับซื้อจำนวนมาก เร่งผลักดัน ‘ลองกอง’ เป็นผลไม้ส่งออก
วันที่ 30 ส.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านของ นางศุภจิรา วงษ์พรวน ชาวสวนหมู่ 9 ต.แม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เร่งคัดลองกองภูเขาลับแล หรือลางกองลับแล เพราะแค่เริ่มต้นฤดูกาล ก็มีพ่อค้าแม่ค้าเปิดล้งสั่งให้รวบรวมผลผลิต คัดช่อคุณภาพเพื่อส่งออกประเทศเวียดนาม วันละไม่ต่ำกว่า 50 ตัน หรือ 5 หมื่นกิโลกรัม ส่งผลให้ชาวสวนลับแลให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพลองกองเป็นผลไม้ส่งออก ต่อจากทุเรียนลับแล
จุดเด่นที่สำคัญของลองกองภูเขาลับแล คือขนาดช่อที่ใหญ่ ผลแน่น และสมบูรณ์ ซึ่งทั้งหมดจะถูกคัดและเตรียมส่งขาย โดยมีความยาวช่อละไม่ต่ำกว่า 30 เซนติเมตร น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัมต่อช่อ เมื่อนำขวดน้ำอัดลมแบบพลาสติกขนาด 2.5 ลิตร วางเทียบยังดูเล็กกว่าลองกอง 1 ช่อ ทั้งนี้ เนื่องจากชาวสวนดูแลเอาใจใส่ ปลูกแบบปลอดสาร และสภาพอากาศปีนี้โดยเฉพาะปริมาณฝนพอดี ทำให้ลองกองลับแลให้ผลผลิตดีตามไปด้วย
นางศุภจิรา กล่าวว่า นอกจากทุเรียนแล้ว อ.ลับแล ยังมีพื้นที่ปลูกลองกอง หรือ ลางกอง ซึ่งแหล่งปลูกอยู่ตามภูเขาสูงของ อ.ลับแล ไม่แตกต่างจากทุเรียน คือปลูกแบบธรรมชาติ ซึ่งลองกองภูเขาลับแลมีเอกลักษณ์ความพิเศษแตกต่างจากพื้นที่อื่น คือต้นดั้งเดิมเป็นต้นลางสาด ชาวสวนใช้วิธีนำกิ่งพันธุ์ลองกอง มาเสียบยอดหรือต่อยอด จึงเรียกว่า “ลางกอง” มีรสเข้มข้น อมเปรี้ยวอมหวาน เนื้อมาก แห้ง และเปลือกบาง
อย่างไรก็ตาม ชาวสวนจึงเน้นการพัฒนาคุณภาพของลองกองภูเขาลับแลเพื่อการส่งออก กว่าจะได้ลองกองช่อใหญ่ยักษ์สีสวย รสชาติดี ต้องเอาใจใส่ มีการแต่งกิ่ง ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ แล้วคัดเลือกช่อดอกที่มีความสมบูรณ์ที่สุด ให้เหลือต้นละไม่เกิน 50 ช่อ ทำให้ไม่ต้องแยกอาหาร ดูแลง่าย ปีนี้ปลูกลางกอง 30 ไร่ คาดผลผลิต 20 ตัน หากราคาดีตั้งแต่ต้นฤดูกาลคือเริ่มอยู่ที่ 40 บาท ซึ่งมีตลาดมารับซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถือว่าเป็นเรื่องดี
นอกจากนี้ นางศุภจิรา ยังกล่าวอีกว่า มีพ่อค้าแม่ค้าเปิดล้งรับซื้อเพื่อส่งออกเวียดนาม โดยได้รวบรวมผลผลิตลองกองคุณภาพ เฉพาะในส่วนของตัวเอง มีออร์เดอร์สั่งวันละ 1 หมื่นกิโลกรัม หรือ 10 ตัน แต่ถ้าทั้ง อ.ลับแล แต่ละวันจะมีผลผลิตลองกองคัดช่อส่งออก มากกว่าวันละ 50 ตัน มากสุดถึง 100 ตัน ในราคากิโลกรัมละ 30-40 บาท ซึ่ง จ.อุตรดิตถ์ มีพื้นที่ปลูกลองกองกว่า 27,000 ไร่ โดยผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดแล้ว ซึ่งปีนี้ไวกว่าทุกปี
