
สารคดีเชิง ชุด “ซ่อม VS ซ้อม ธำรงวินัยทหารอดทน” ของทีมข่าวเวิร์คพอยท์ คว้ารางวัลดีเด่นประเภทข่าวหรือสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อโทรทัศน์ จากแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย
วันนี้ (24 ม.ค. 62) แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จัดการประกวดผลงานข่าว “รางวัลสื่อมวลชนเพื่อสิทธิมนุษยชน” ประจำปี 2561 โดยรางวัลนี้มอบให้สื่อมวลชนที่ทำหน้าที่ในการนำเสนอข่าวสารข้อเท็จจริงสู่สังคม และทำหน้าที่ในการปกป้องส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของคนทุกชนชั้น ควบคู่ภายใต้ความยุติธรรมเพื่อทุกคน เพื่อทุกสิทธิ
และในปี 2561 ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้รับรางวัลดีเด่น “รางวัลสื่อมวลชนเพื่อสิทธิมนุษยชน”ประจำปี 2561 (Media Awards 2018) ประเภทข่าวหรือสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อโทรทัศน์ (ความยาวรวมไม่เกิน 20 นาที) คือ สารคดีเชิง ชุด “ซ่อม VS ซ้อม ธำรงวินัยทหารอดทน” ออกอากาศในระหว่างวันที่ 11-15 ธ.ค. 2560 ซึ่งในประเภทนี้ มีผลงานร่วมส่งประกวดทั้งหมด 19 ผลงาน 8 สถานีโทรทัศน์ โดยผลงานทั้งหมดมี 4 ประเภทผลงาน มีผลงานส่งเข้าประกวดทั้งหมด 67ผลงาน

สำหรับรางวัลดีเด่นประเภทข่าวและสารคดีเชิงข่าวสื่อสิ่งพิมพ์ คือ “ผู้กักขังและผู้ลี้ภัยในเขตเมือง 101” จากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, รางวัลดีเด่นประเภทสื่อออนไลน์ คือ “บทเรียนจากแดนประหารจากช่างภาพญี่ปุ่น โทชิ คาซามะ” เว็ปไซต์สนุกดอทคอม, รางวัลดีเด่น ข่าวและสารคดีเชิงข่าวสื่อโทรทัศน์ความยาวไม่เกิน 20 นาที ปีนี้มี 2 รางวัล คือ “ซ่อม VS ซ้อม ธำรงวินัยทหารอดทน” สถานีโทรทัศน์เวิร์คพอยท์ และ “โรฮิงญากลางฤดูอพยพ” สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
และรางวัลดีเด่น ข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทรายการโทรทัศน์ ความยาวไม่เกิน 60 นาที ปีนี้มี 2 รางวัล คือ “ชีวิตหนี้มลาบรี” รายการเปิดปม สถานโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และ “เคยมีคนชื่อ เด่น คำแหล้” รายการสารตั้งต้น สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี
สำหรับสารคดีเชิงข่าว ชุด “ซ่อม VS ซ้อม ธำรงวินัยทหารอดทน” ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ โดย น.ส.พรทิพย์ โม่งใหญ่ ผู้สื่อข่าว ได้นำเสนอต่อยอดจากประเด็นข่าวการเสียชีวิตของ นตท.ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหาร ซึ่งเสียชีวิตในโรงเรียนเตรียมทหาร โดยทีมข่าวได้ทำการต่อยอดสะท้อนถึงครอบครัวที่ต้องสูญเสียจากการ “ซ่อม” ที่บางครั้งมีความหมายคล้ายกับคำว่า “ซ้อม” พร้อมทั้งให้สังคมได้รับรู้ว่ายังมีอีกหลายครอบครัวที่ต้องเผชิญกับความสูญเสียในลักษณะนี้
ในสารคดียังนำเสนอต้นตอของปัญหาสู่แนวทางการแก้ปัญหาที่ต้องคำนึงถึงหลักมนุษยชน ซึ่งตลอดระยะการเก็บข้อมูลและถ่ายทำสารคดีชุดนี้ใช้เวลา 2 เดือน พบอุปสรรคในการเข้าถึงข้อมูลพอสมควร









