ครูปรีชาปัดตอบเรื่องคลิปเสียง แนะ ใครมีหลักฐาน ให้นำเข้าสู่กระบวนการศาล

ครูปรีชาปัดตอบเรื่องคลิปเสียง แนะ ใครมีหลักฐาน ให้นำเข้าสู่กระบวนการศาล

ในประเทศ

ประเด็นคือ – คืบหน้าจากกรณีมีการเผยเเพร่คลิปเสียง โยงคดีดัง ล่าสุดครูปรีชาปัดตอบเรื่องคลิปเสียงกับผู้สื่อข่าว แต่ก็ไม่ปฏิเสธ แนะใครมีพยานหลักฐานดีๆ ขอนำไปเข้าสู่กระบวนการศาล จะดีกว่า

เวลา 09.30 น. วันนี้ 18 ก.พ. 61 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักเลขที่ 143/22 ทุ่งนา ซ.5 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ขอพบครูปรีชา ใคร่ครวญ เพื่อสอบถามกรณีที่รายการข่าวภาคค่ำของโทรทัศน์บางช่อง ได้นำคลิปเสียงพูดคุยกันทางโทรศัพท์ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ความยาว 3 นาที มาเผยแพร่เมื่อเย็นวานนี้ (17 ก.พ.) ว่าใช่เสียงของครูปรีชาหรือไม่ ?

ซึ่งเมื่อไปถึงพบรถกระบะ 2 คัน รถเก๋ง 1 คัน จอดอยู่ภายในบ้าน ส่วนประตูหน้าบ้านล็อกกุญแจด้านในเอาไว้ บรรยากาศค่อนข้างเงียบ แต่สื่อมวลชนเชื่อว่าครูปรีชาพร้อมครอบครัวคงอยู่ภายในบ้าน ซึ่งไม่นานนักครูปรีชาก็ได้ตะโกบอกผู้สื่อข่าวว่า ขอเวลาอาบน้ำสักพัก จนกระทั่งประมาณ 30 นาที ครูปรีชาก็เดินออกมาพบผู้สื่อข่าว ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มเช่นเดิม และพูดจาแซวสื่อมวลชนว่า “เมื่อวานคุยกันแล้วไงล่ะ ว่าวันนี้จะไม่มาพบ เพราะครูจะพาครอบครัวไปทำบุญฝังลูกนิมิติ” แต่อย่างไรก็ตาม ครูปรีชาก็เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถามได้

เเละต่อคำถามที่ว่า “ครูฟังคลิปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ?” ครูปรีชาตอบว่า “…เก่งมากเลย ไม่รู้ไปเอาคลิปใครมาก็ไม่รู้ ก็อย่างที่ครูเคยบอกว่าเรื่องคลิปเสียง ซึ่งพูดแล้วก็พูดอีกว่า ใครมีหลักฐานอะไร ก็ควรนำเข้าสู่กระบวนการของศาล เพราะทำแบบนี้เหมือนการชี้นำประชาชน

“คลิปทั้งหมดนี้ครูอยากจะทราบว่า แหล่งที่มานั้นมาจากไหน ใครเป็นคนเอามา แล้วที่มานี้มาได้อย่างไร ดังนั้นจะมาถามครูก่อนไม่ได้ จะต้องไปถามคนที่นำมาว่า นำมาจากไหน”

เเละเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วครูเคยมีคลิปเสียงนี้หรือไม่ ? ครูปรีชาตอบว่า “คือเรื่องเสียง เมื่อพูดถึงโทรศัพท์ทั่วๆ ไป เราก็พูดคุยกันโดยทั่วๆ ไป แต่ใครจะมาจำว่าเราจะพูดกับใครตรงไหนบ้าง มันจำไม่ได้หรอก

“อย่างที่ครูบอกนั่นแหละว่า ใครมีพยานหลักฐานดีๆ ก็นำไปเข้าสู่กระบวนการศาล ทางเจ้าหน้าที่ก็ทำหน้าที่ด้วยความยุติธรรมอยู่แล้ว ซึ่งความจริงครูก็ไม่ได้ปฏิเสธนะว่า เสียงในคลิปนั้นไม่ใช่เป็นเสียงครู แต่ว่าอยากให้นักข่าวได้กลับไปถามก่อนว่า ที่มาของเสียงมายังไง ใครเป็นคนเอามา มาจากแหล่งไหน

ดังนั้นการที่มีคลิปเสียงออกมาชี้นำประชาชน ครูเคยบอกแล้วว่าเป็นการมอมเมาประชาชน ทำให้ประชาชนเข้าใจไม่ถูกต้อง ถ้าคนเอามาบอกที่มาของแหล่งเสียงได้ ถึงค่อยมาคุยกับครู คลิปนี้คืออะไร จึงขอให้นักข่าวทุกคนกลับไปถามคนที่เอาคลิปมา เอามาจากไหน มาจากแหล่งใด แล้วค่อยมาถามครูก็แล้วกัน

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า อย่างกรณีคลิปเสียงนี้ ถ้าเกิดเป็นเสียงของครูจริง ถ้าครูได้มีการอธิบายเพิ่มเติมเสริมไปมันอาจจะเป็นทางบวกกับครู ครูมองว่าอย่างไร ? ครูปรีชาตอบว่า “คือจริงๆ จะบวกหรือลบครูเองก็ไม่ได้ติดใจ ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่ามันเป็นเรื่องของคดี ต้องเข้าสู่กระบวนการศาล จึงไม่เกี่ยวกับเรื่องจะบวกหรือลบ เพราะสักวันหนึ่งประชาชนก็จะเข้าใจเมื่อคดีเรียบร้อยแล้ว

ส่วนคำถามที่ว่า ทางกองปราบเตรียมจะออกหมายจับ มีความกังวลอะไรหรือไม่ ? ซึ่งครูปรีชาก็ตอบเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาว่า “บอกตรงๆ ว่าไม่ได้หวั่นวิตกหรือกังวลอะไรมาตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเราคือเรื่องจริง และเชื่อมั่นในความจริง ส่วนกรณีที่ท่าน ผบช.ก.บอกเปิดโอกาสให้คนทำผิดกลับตัวกลับใจ ท่านก็พูดอย่างเป็นกลาง ซึ่งก็หมายความว่าท่านบอกกับทั้งสองฝ่าย ดังนั้นอย่าไปแปลความหมายกันเอง

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง