ประเด็นคือ – ครูปรีชาบอกงดให้สัมภาษณ์ ก่อนยอมให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมา บอกเกรงใจสื่อ เหมือนพี่เหมือนน้องเหมือนญาติ ฝากขอบคุณทนายตั้มและให้ดูแลตัวเอง
เวลา 08.30 น. วันนี้ 25 ก.พ. 61 ที่บ้านครูปรีชา ภายในบ้านมีญาติเดินทางมาเป็นจำนวนมาก ต่อมาลูกสาวครูปรีชา ได้ขับรถเก๋งออกจากบ้านไป พอครูปรีชาเห็นสื่อได้ร้องบอกพี่สาวว่า สื่อมาอีกแล้ว จากนั้นพี่สาวได้เดินออกมาปิดประตูพร้อมบอกว่าวันนี้งดให้ข่าว
ต่อมาเมื่อจนเวลา 10.20 น. ครูปรีชาสวมเสื้อยืดสีขาวกางเกงขาสั้น สวมหมวก เดินออกมาบอกว่าตกลงจะไม่ให้สัมภาษณ์ โดยบอกว่าจะไปดูไร่ปาล์ม ไร่ยางพารา ที่อำเภอบ่อพลอย โดยทำเป็นไร่แบบเศรษฐกิจพอเพียงไว้กว่า 50 ไร่ เชิญสื่อไปดูได้
มีพี่สาวเป็นคนขับรถครูปรีชานั่งด้านซ้ายพากันออกจากบ้านไป โดยครูปรีชาได้บอกว่าขอให้สื่อไปถามลุงจรูญว่า ซื้อสลากจากใคร ไม่ใช่บอกว่าซื้อแล้วจำไม่ได้ “ของผมมีหลักฐานทั้งหมด ไม่ต้องนำมาเปิดเผย ไปที่เดียวที่ศาล” ครูปรีชากล่าว
ส่วนกรณีทนายตั้มออกมาโพสต์ว่าไม่ได้ข่มขู่ครู ครูปรีชากล่าวว่า เวลานี้ไม่ใช่เวลาเตือนกัน ต้องขอบคุณทนายตั้มด้วย ให้ห่วงตัวเองให้มาก เเละบอกว่าหลักฐานนั้นเขาให้ไปเปิดในศาล ไม่ใช่มาโพสต์ทุกวันแบบนี้ ครูบอกทุกครั้งว่าใครมีหลักฐานใดๆ เอาไปขึ้นศาล เดี๋ยวได้ขึ้นศาลอยู่แล้ว ไม่ใช่มามอบเมาประชาชนอย่างนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ใกล้สรุปคดีนี้แล้วรู้สึกอย่างไร ? ครูปรีชาบอกว่า สบายใจดี และบอกว่า “เป็นเรื่องที่ดีที่ความจริงจะปรากฏในเร็วๆ นี้ ความจริงก็คือความจริง เราหลีกหนีความจริงไปไม่พ้นอยู่แล้ว” ครูกล่าวอย่างมั่นใจ การสรุปของตำรวจเป็นเพียงแค่เบื้องต้นเท่านั้น จริงๆ แล้วต้องไปสิ้นสุดที่กระบวนการศาล
“ส่วนกรณีที่ไปฟ้องแพ่งด้วยนั้น เรื่องนี้ตนเองไม่ถนัด เป็นเรื่องของทนายความ และเราไม่ต้องออกมาบอกว่าคนโน้นยอมรับคนนี้ยอมรับ ไม่จำเป็น ต้องออกมาพูดมาโพสต์กันทำไม กรณีที่มีการโพสต์โจมตีครู ก็เป็นเรื่องของคนที่ไม่เห็นด้วยเป็นธรรมดา แต่เราต้องใช้หลักธรรมเข้ามาปฏิบัติตนเอง หลักธรรมของพระพุทธเจ้าให้ทุกคนมีสติ มีขันติ แล้วมันจะผ่านพ้นความเดือดร้อนไปได้ ผมใช้ปฏิบัติตนมาตลอด ไม่เช่นนั้นคงสติแตกไปแล้ว” ครูปรีชากล่าว
