ครูร้องยกเลิกสอบโอเน็ต เหตุทำเด็กเห็นแก่ตัว พร้อมทวงคืนกองทุน ชพค. กว่า 2 หมื่นล้าน

ครูร้องยกเลิกสอบโอเน็ต เหตุทำเด็กเห็นแก่ตัว พร้อมทวงคืนกองทุน ชพค. กว่า 2 หมื่นล้าน

ในประเทศ

ประเด็นคือ – ครูประกาศก้อง ต้องยกเลิกการสอบโอเน็ต เพราะทำให้เด็กไม่มีคุณธรรม พร้อมทวงคืนกองทุน ชพค.กว่า 2 หมื่นล้านบาท ให้ครูบริหารงานเอง เพราะเป็นเงินฌาปนกิจของครูทั่วประเทศ

วันที่ 7 เม.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายวิสัย เขตสกุล ประธานชมรมครูประถมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นประธานในการเปิดเวที “ศรีสะเกษคิด วันปิดภาคเรียน เพื่อเด็ก เพื่อครู เพื่อชุมชน” โดยมี นายสนอง ทาหอม แกนนำครูคนสำคัญของประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหารโรงเรียนและคณะครูที่เป็นตัวแทนของสมาชิกชมรมครูประถมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษทุกสังกัด ได้มาร่วมกันจัดเวทีเพื่อหารือถึงแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ทั้งประเด็นด้านการคิดเพื่อเด็ก หลักสูตรทุกระดับชั้น “ต้องกินได้ ใช้ได้” การวัดและการประเมินผล “ต้องตามสมรรถนะ และศักยภาพ” ประเด็นคิดเพื่อครู ด้านความมั่นคงก้าวหน้าในวิชาชีพ การมีสวัสดิการสวัสดิภาพครู และประเด็นการคิดเพื่อชุมชน ด้านการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา รร.นิติบุคคลทุก รร. โดยผู้เข้าร่วมงานได้มีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง

นายวิสัย เขตสกุล ประธานชมรมครูประถมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยคณะสมาชิกของชมรม ประกอบด้วยผู้บริหารโรงเรียน และครูทุกคนของ จ.ศรีสะเกษ ได้มีมติร่วมกันว่า จะเสนอให้ยกเลิกการสอบโอเน็ต เนื่องจากตราบใดที่มีการสอบโอเน็ตหรือเอ็นที ตราบนั้นเด็กนักเรียนจะไม่มีสมองในการคิดเลย เพราะเด็กจะต้องติวอย่างเดียว ไม่มีกระบวนการเรียนการสอน นักเรียนจะไม่มีจริยธรรมคุณธรรม เนื่องจากการสอบโอเน็ต เป็นการสอบแบบคัดออก น็อกดาวน์ ทำให้เด็กเห็นแก่ตัว 

“นี่คือผลร้ายที่จะเกิดต่อไปของประเทศที่จะมีแต่พลเมืองที่เห็นแก่ตัว ขี้อิจฉาริษยา ถ้าจะจัดอันดับก็จะได้แค่ในห้องเรียน ซึ่งเป็นตัวร้ายมาก จัดอันดับในห้องเรียน ที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 เอ็นทีสุดท้าย แล้วเด็กคนสุดท้ายคนที่ 40 – 45 จะทำอย่างไร คนที่ 1 จะทำอย่างไร การนำเอาผลสอบโอเน็ตมาใช้ในการจัดอันดับ จะเป็นการทำลายพลเมืองของชาติ การวัดประเมินผลจะต้องวัดจากความสามารถของเด็ก เครื่องมือวัดไม่จำเป็นต้องเป็นข้อสอบ ที่สำคัญคือ มหาวิทยาลัยต้องปรับเกณฑ์การรับนักเรียนที่กาข้อสอบถูก ระบายข้อสอบถูกไปเข้าเรียน โดยจะต้องเปลี่ยนเป็นรับนักเรียนจากโครงการที่เด็กเสนอมา เช่น ขอเรียนครู คณะครุศาสตร์ จบไปแล้วจะสอนเด็กแบบนั้นแบบนี้ ให้เกิดผลดีอย่างไร หรือว่าการขอเรียนช่าง ก็เสนอโครงการเข้าไป ไม่ใช่ว่าทำการสอบทุกขั้นตอน หากไม่มีการสอบ เด็กนักเรียนก็ไม่ต้องไปติว การรับติวก็จะไม่มี ระบบคุณธรรม จริยธรรม ก็จะกลับมาสู่ผู้เรียน” นายวิสัย กล่าว

ประธานชมรมครูประถมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า เรื่องสวัสดิการสวัสดิภาพของครู คือกองทุน ชพค. ซึ่งครูทุกคนเป็นสมาชิก และมีเงินกองทุนอยู่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเงินของครูทุกคน แต่ว่ารัฐบาลกำลังจะเอาเงินของครู ซึ่งไม่ใช่งบประมาณแผ่นดินไปบริหารงาน เงินฌาปนกิจของหมู่บ้าน ชาวบ้านยังต้องบริหารงานกันเอง กองทุนช่วยเพื่อนครู ฌาปนกิจของครู ปรากฏว่าคณะกรรมการที่ตั้งมาใหม่ มีแต่คณะกรรมการในแท่งของผู้มีอำนาจมาบริหาร

ตนอายชาวบ้านมาก ที่มีความสามารถเก่งกว่าครูมาก สามารถบริหารเงินฌาปนกิจของหมู่บ้านได้ แต่ครูเข้าไปดูแลเงินฌาปนกิจของตนเองไม่ได้ น่าสงสารครูทั่วประเทศเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของเพื่อนครู ตนจะให้ครูศรีสะเกษทุกคนร่วมกับเพื่อนครูทุกคนทั่วประเทศ ร่วมกันทวงกองทุน ชพค.คืนมา โดยจะให้ครูทุกคนเขียนไปรษณียบัตรส่งไปถึงนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการอิสระ และคณะกรรมการขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษาในส่วนภูมิภาค เพื่อขอให้ครูทั่วประเทศเข้าไปบริหารงานเงินกองทุน ชพค.ด้วยตนเอง

“ครูต้องทำเพื่อครู ไม่ใช่ให้คนจากส่วนราชการอื่นมาบริหารงานเงินกองทุนของครู อย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้” ประธานชมรมครูประถมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวทิ้งท้าย

 

ขอบคุณภาพปกและภาพประกอบบางส่วนจาก: data.bopp-obecvcharkarn

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
ครูร้องยกเลิกสอบโอเน็ต เหตุทำเด็กเห็นแก่ตัว พร้อมทวงคืนกองทุน ชพค. กว่า 2 หมื่นล้าน