
จากกรณีบรรทุกพ่วงสินแร่ทองแดงตกลงไปในลำห้วย จ.อุดรธานี ส่งผลน้ำ – ดินปนเปื้อนโลหะหนักรุนแรง ล่าสุดรอบริษัทเสนอแผนเก็บกู้และฟื้นฟูสัปดาห์หน้า
วันที่ 8 ก.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการเก็บกู้และพื้นฟูลำห้วยสาขา และลำห้วยสามพาด จากอุบัติเหตุรถบรรทุกแร่ทองแดงพลิกคว่ำ ทำให้ตัวพ่วงบรรทุกสินแร่ทองแดงจาก สปป.ลาว จะไปส่งที่ท่าเรือมาบตาพุด ตกลงไปในลำห้วยริม ถ.มิตรภาพ บ.นาดี ต.ผาสุก อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา จนเกิดการแพร่กระจายของโลหะหนัก 8 ชนิด สูงเกินเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำผิวดิน

หลังจากเก็บกู้แร่ออกครั้งแรก ตรวจพบตะกอนดินในห้วยพบการปนเปื้อนรุนแรงในระยะ 300 ม. จึงมีคำสั่งห้ามจับปลาและสัมผัสโคลน และให้ บจก.เอส เค ที ทราน ผู้ประกอบการขนส่งเก็บกู้และฟื้นฟูลำห้วย ขณะที่ นายมนต์สังข์ ภู่ศิริวัฒน์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทสจ.) อุดรธานี เผยว่า ตัวแทนของบริษัทขนส่งสินแร่ได้เดินทางมารับทราบปัญหา ทั้งการลงพื้นที่ การประชุมร่วม และการหารือล่าสุดกลางสัปดาห์ สรุปว่าบริษัทจะต้องเสนอแผนเก็บกู้และฟื้นฟูให้กับ ทสจ.อุดรธานี ภายในวันจันทร์นี้ เพื่อนำเข้าให้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นพิจารณา ถ้าเห็นด้วยก็ต้องไปทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ก่อนลงมือตามแผนปฏิบัติงาน

ทสจ.อุดรธานี กล่าวต่อว่า จากการหารือบริษัทได้เสนอร่างแผนว่าจะใช้รถดูดโคลนขนาดใหญ่ เข้ามาเก็บกู้ตะกอนดินก้อนห้วยออก แต่ติดปัญหาที่รถดูดโคลนมีสายดูดเพียง 60 ม. โดยจะสามารถเข้าไปทำงานได้ที่จุดเกิดเหตุและปลายจุดฝายน้ำล้น รวมระยะทางนำตะกอนออกได้เพียง 120 ม. ที่เหลือกำลังพิจารณาอีก 180 ม. ซึ่งจะนำตัวอย่างตะกอนดินไปตรวจ วิเคราะห์ที่ห้องแล็ปของเอกชนที่ราชการรับรอง นำมาประกอบการตัดสินใจ
ด้าน นายสมหวัง พ่วงบางโพ รอง ผวจ.อุดรธานี ตอบข้อซักถามว่า อุดรธานียังไม่มีข้อมูลทั้งหมด ว่ารถบรรทุกสินแร่อะไรบ้าง และจำนวนมากน้อยแค่ไหน จากประเทศเพื่อนบ้านวิ่งผ่านอุดรธานี เพื่อไปยังท่าเรือทางภาคตะวันออก จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สอบถามจากหน่วยงานต้นทาง เพื่อมาพิจารณาร่วมกันป้องกัน ไม่ให้รถบรรทุกเกิดอุบัติเหตุขึ้นอีก











